The Prachakorn

รู้ว่าดี แต่ทำไม่ได้: ทำไมคนไทยยังบริโภคผักและผลไม้ไม่ถึง 400 กรัมต่อวัน?


ณัฐณิชา ลอยฟ้า

02 มกราคม 2568
62



ในยุคปัจจุบัน การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นหนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานสาธารณสุข องค์กรด้านโภชนาการ หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป ความตระหนักรู้เกี่ยวกับการบริโภคผักและผลไม้วันละ 400 กรัม หรือเทียบเท่ากับ ผักสุก 6 ทัพพี และผลไม้ 2 ส่วน (ซึ่งเป็นปริมาณที่องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม แม้หลายคนจะทราบถึงประโยชน์เหล่านี้แล้ว แต่กลับพบว่าในทางปฏิบัติ คนไทยจำนวนมากยังไม่สามารถปรับพฤติกรรมการบริโภคให้เหมาะสมได้


เครดิตภาพ: www.freepik.com

ข้อมูลสำรวจจาก โครงการศึกษาสถานการณ์การบริโภคอาหาร ความมั่นคงทางอาหาร และความรอบรู้ด้านอาหารของประชากรไทย พบว่า ประชากรที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ร้อยละ 52.3 มีความรู้ว่าต้องบริโภคผักและผลไม้ วันละ 400 กรัม แต่มีคนไทยที่สามารถบริโภคผักและผลไม้ วันละ 400 กรัม ได้ตามเกณฑ์เพียงร้อยละ 35.3  และจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปีที่ 2560 พบว่าประชากรไทยส่วนใหญ่ยังบริโภคผักและผลไม้น้อยกว่าปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจระดับโลกที่ชี้ให้เห็นว่าประชากรในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย มีพฤติกรรมการบริโภคผักผลไม้ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมของคนไทยมีความเสี่ยงสูงขึ้น

เครดิตภาพ: AI Generate by www.freepik.com

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการบริโภคผักและผลไม้ คือ “ความรอบรู้ทางด้านอาหาร” หรือความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโภชนาการที่ถูกต้อง หลายคนอาจมีความรู้พื้นฐาน เช่น รู้ว่าผักผลไม้ดีต่อสุขภาพ แต่กลับไม่เข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจากการขาดสารอาหารเหล่านี้ ทำให้ขาดแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การบริโภคผักผลไม้วันละ 400 กรัม ฟังดูเป็นเรื่องง่ายแต่ในความเป็นจริง กลับพบว่าอุปสรรคหลายประการทำให้การบริโภคในระดับที่เหมาะสมนั้นยากกว่าที่คิด เช่น

  • ค่าใช้จ่าย ผลไม้และผักบางชนิดมีราคาแพง ทำให้คนส่วนหนึ่งหลีกเลี่ยงการซื้อหรือหันไปเลือกอาหารที่มีราคาถูกกว่า เช่น อาหารแปรรูปหรือขนมขบเคี้ยวที่เข้าถึงได้ง่ายและราคาถูกกว่า
  • ความสะดวกในการบริโภค ชีวิตที่เร่งรีบของคนในเมืองและวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้หลายคนไม่สะดวกในการจัดเตรียมอาหารที่มีผักและผลไม้เป็นส่วนประกอบ การเลือกอาหารจานด่วนที่สะดวกแต่ขาดสารอาหารที่เพียงพอจึงกลายเป็นทางเลือกหลัก
  • รสนิยมและวัฒนธรรมการกิน บางคนอาจไม่คุ้นเคยกับรสชาติของผักและผลไม้ เติบโตมาในครอบครัวหรือสังคมที่เน้นบริโภคเนื้อสัตว์หรืออาหารที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติ การกินผักและผลไม้จึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับการส่งเสริมตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้ขาดทักษะในการเลือกและรับประทาน

แม้ว่าคนไทยจะตระหนักถึงความสำคัญของการบริโภคผักและผลไม้ที่เพียงพอ แต่หลายคนยังประสบปัญหาในการทำให้เป็นจริง เนื่องจากความรอบรู้ทางด้านอาหารที่ยังไม่เพียงพอ รวมถึงอุปสรรคในการเข้าถึงและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและการสนับสนุนในการเข้าถึงผักและผลไม้จึงเป็นกุญแจสำคัญในการปรับปรุงพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยในอนาคต โดยมีโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการส่งเสริมการบริโภคผักผลไม้ในโรงเรียนเพื่อสุขภาพเด็กวัยเรียน, แคมเปญ "กินผักผลไม้ให้ได้ 400 กรัม" ที่รณรงค์ผ่านสื่อสังคมและกิจกรรมในชุมชน, และการปรับเปลี่ยนเมนูอาหารกลางวันในโรงเรียนเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนบริโภคผักและผลไม้มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายในการลดภาวะทุพโภชนาการและส่งเสริมสุขภาพที่ดี.


เอกสารอ้างอิง

  1. องค์การอนามัยโลก (World Health Organization). (2020). Healthy diet. Retrieved from https://www.who.int
  2. สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2563). รายงานผลสำรวจภาวะสุขภาพของประชาชนไทย. กรุงเทพฯ: สำนักบริหารจัดการการสำรวจสุขภาพ
  3. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2565). คู่มือการบริโภคอาหารสุขภาพ. กรุงเทพฯ: กรมอนามัย
  4. โครงการศึกษาสถานการณ์การบริโภคอาหาร ความมั่นคงทางอาหาร และความรอบรู้ด้านอาหารของประชากรไทย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล

 


Tags :

CONTRIBUTOR

Related Posts
Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th