The Prachakorn

Triple Bs and One NA แรงเท้าบอกไม่ไหว แต่แรงใจบอกไปต่อ ณ ภูกระดึง 2023 ตอนที่ 2


กษมา ยาโกะ

06 มีนาคม 2568
67



สำหรับบทความตอนนี้ ถือว่าเป็นภาคต่อของเรื่อง “Triple Bs and One NA แรงเท้าบอกไม่ไหว แต่แรงใจบอกไปต่อ บันทึก (ขาขึ้น) ณ ภูกระดึง 2023” ซึ่งจะมาเล่าถึงเรื่องการใช้ชีวิตบนภูกระดึง และการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวตามจุดสำคัญต่าง ๆ ของที่นี่ โดยบอกไว้ก่อนเลยว่าแต่ละจุดนั้นสวยงามมาก ๆ และเดินทางกันเหนื่อยมาก ๆ เช่นกัน โดยบทความนี้จะแบ่งเรื่องราวออกเป็น 2 ส่วน คือ การใช้ชีวิตบนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง และการเดินทางไปยังจุดสำคัญต่าง ๆ บนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง

การใช้ชีวิตบนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง

หลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยขึ้นไปเที่ยวบนยอดภูกระดึงอาจจะสงสัยว่าเวลาอยู่บนนั้นเราสามารถทำอะไรได้บ้าง สถานที่อาบน้ำเป็นอย่างไร มีห้องน้ำเพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน ร้านอาหารเป็นอย่างไร รวมไปถึงมีไฟฟ้าใช้หรือไม่ เป็นต้น บทความนี้จะพยายามตอบคำถามทุกอย่างที่กล่าวมา และจะบอกเล่าถึงรายรายละเอียดที่สำคัญต่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อหวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อย

เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับทราบรายละเอียดเรื่องที่พัก และการเช่าอุปกรณ์เครื่องนอนต่าง ๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นที่รองนอน หมอน ผ้าห่ม หรือเสื่อ สำหรับที่พักนั้นต้องดำเนินการจองล่วงหน้าก่อนขึ้นไปยังยอดภูกระดึง พวกเราเลือกจองที่พักเป็นเต็นท์ สามารถนอนได้ 2 คนต่อเต็นท์ อุปกรณ์เครื่องนอนพวกเราเตรียมไปแค่ถุงนอน และหมอน เนื่องจากเป็นของเฉพาะของแต่ละคน ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ดำเนินการเช่าจากของที่อุทยานมีให้ โดยจุดรับ-จ่ายอุปกรณ์ต่าง ๆ จะอยู่บริเวณหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ ข้อควรระวังคือ เอาของเท่าที่จำเป็นมาเท่านั้น หลาย ๆ คน ชอบคิดว่าจะต้องเตรียมของนั่นนี่มากมาย อุปกรณ์ต้องพร้อม ต้องครบ แต่อย่าลืมว่าการเดินทางขึ้นมาบนยอดภูกระดึงเป็นสิ่งที่ยากลำบาก และเหนื่อยล้ามาก ดังนั้นจึงควรเอาของที่จำเป็นขึ้นมาเท่านั้น เพราะทุกกิโลกรัมของสิ่งของที่นำขึ้นไปมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ หากคุณจ้างลูกหาบแบกสัมภาระของคุณขึ้นไปบนยอดภูกระดึง

เมื่อได้รายละเอียดเรื่องที่พัก และจัดการเช่าเครื่องนอนที่ต้องการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็รอกระเป๋าสัมภาระของตัวเองที่เดินทางมากับลูกหาบบริเวณหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ ซึ่งมาถึงหลังพวกเราเล็กน้อย หลังจากได้รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ไปยังเต็นท์ที่พัก จัดของต่าง ๆ เปลี่ยนรองเท้า และเตรียมพร้อมสำหรับไปรับประทานอาหารเย็น โดยพวกเราเลือกที่จะรับประทานอาหารเย็นร้านใกล้ ๆ กัน เพื่อที่จะสามารถนั่งโต๊ะเดียวกันได้ และด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางขึ้นมายังยอดภูกระดึงจึงทำให้เพื่อนบางคนในกลุ่มของเรานั่งหลับระหว่างรับประทานอาหาร และบางคนมีอาการเหม่อลอยสั่งน้ำ สั่งอาหารผิด ๆ ถูก ๆ เช่น สั่งเจ้าของร้านอาหารว่า “พี่ ๆ ขอน้ำใหญ่ขวดเย็น 1 ขวดค่ะ” นับว่าเป็นอีก 1 เรื่องราวที่แสนน่ารัก น่าเอ็นดูที่เกิดขึ้นในการเดินทางครั้งนี้

สำหรับเรื่องร้านค้า และร้านอาหารที่อยู่บนยอดภูกระดึงบริเวณลานที่พักวังกลาง พวกเราบอกได้เลยว่ามีหลากหลายร้านให้เลือกซื้อ เลือกทาน โดยร้านอาหารจะมีทั้งอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และอื่น ๆ มีร้านขนมปังปิ้ง มันปิ้งต่าง ๆ เหมาะกับการรับประทานในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นมาก ๆ นอกจากนี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่นับถือศาสนาอิสลาม ทุกท่านไม่ต้องกังวลเลย เนื่องจากที่นั่นมีร้านอาหารอิสลามด้วยเช่นกัน มีขายทั้งข้าวหมกไก่ ข้าวเหนียวไก่ทอด อาหารตามสั่ง โรตี และเครื่องดื่มอีกมากมาย ดังนั้นเรื่องอาหารการกินจึงไม่ใช่เรื่องที่ทุกท่านต้องกังวลแต่อย่างใด ในส่วนของร้านค้า มักจะเป็นร้านขายของฝาก หรือของที่ระลึก เช่น โปสการ์ด เสื้อ กระเป๋า สมุดโน้ต เป็นต้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อของฝากได้อย่างจุใจ

เมื่อรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราทุกคนก็กลับไปยังเต็นท์ที่พัก เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ และพักผ่อนเก็บแรงสำหรับเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ในวันถัดไป นอกจากนี้ อุทยานฯ จะมีการปิดไฟ และงดใช้เสียงในช่วงเวลา 22.00 น. ดังนั้นทุกคนต้องรีบทำเวลา และในช่วงที่พวกเราไปนั้น มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ดังนั้น การใช้ห้องน้ำ หรือห้องอาบน้ำ อาจจะต้องรอต่อแถวจากคนอื่น ๆ ส่วนเครื่องอาบน้ำ สบู่ ต่าง ๆ ต้องเตรียมไปเอง เหมือนไปเข้าค่ายสมัยเด็ก ๆ หากใครสงสัย และอยากทราบว่าที่อาบน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นหรือไม่ คำตอบคือ ไม่มี ทุกคนจะได้อาบน้ำเย็นกันถ้วนหน้า และยิ่งดึกก็จะยิ่งหนาว ท่ามกลางอากาศหนาวประมาณ 14 – 16 องศาเซลเซียส ส่วนห้องน้ำ มีทั้งชักโครกแบบนั่งยอง และชักโครกแบบกด สามารถเลือกได้ตามอัธยาศัย ความสะอาดนั้นขึ้นอยู่กับการร่วมมือร่วมใจกันของนักท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ดีมีพี่ ๆ เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดช่วยดูแลอยู่เช่นกัน

ส่วนเรื่องการนอนเต็นท์ พบว่า อาจจะไม่สบายเท่ากับการนอนเตียงกับเบาะนุ่ม ๆ ที่บ้าน หรือหอพักของตัวเอง แต่โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ตัวเต็นท์ที่อุทยานฯ จัดให้สำหรับนักท่องเที่ยวมีขนาดที่พอดีสำหรับการนอน 2 คน กันน้ำ กันลม ได้ดี และมีความแข็งแรง ปลอดภัย สำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกนอนเต็นท์ทุกคน

ในภาพรวมสำหรับการใช้ชีวิตบนยอดภูกระดึง ถือว่ามีความสะดวกสบายพอสมควรทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก ที่นอน และห้องน้ำ รวมไปถึงเรื่องการดูแลบริการจากเจ้าหน้าที่ด้วย แม้แต่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วยกันเองก็มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันอยู่เสมอ มีการพูดคุย ทักทายกัน แม้ว่าจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มีการให้กำลังใจกันและกัน มีการเล่าถึงแผนการเดินทางไปยังจุดต่าง ๆ บนภูกระดึง การช่วยกันถ่ายรูปให้แก่กันและกัน รวมไปถึงการเดินหา และไปส่งยังเต็นท์ที่พักด้วย หากทุกคนถามว่าการไปเที่ยวบนยอดภูกระดึงเหมาะแก่การไปพักผ่อนแบบสบาย ๆ หรือไม่ คำตอบอาจจะไม่ใช่ แต่หากอยากท้าทายความสามารถของตัวเอง ขีดจำกัดของตัวเอง รวมไปถึงการได้ลองอะไรใหม่ ๆ บรรยากาศใหม่ ๆ รับรองได้ว่าการมาเที่ยวยังยอดภูกระดึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด

การเดินทางไปยังจุดสำคัญต่าง ๆ บนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง

เส้นทางการท่องเที่ยวของพวกเรา เริ่มที่การดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ซึ่งจะห่างจากลานกางเต็นท์ฯ ประมาณ 2 กิโลเมตร การเดินทางไปยังผานกแอ่น ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้มีการแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบว่าหากนักท่องเที่ยวท่านใดสนใจเดินทางไปยังจุดดังกล่าว ให้มาพบกัน เวลา 05.00 น. ตรงหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ หลังจากนั้น พวกเราก็ออกเดินทางไปยังจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกับนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ  โดยมีเจ้าหน้าที่จากอุทยานฯ เป็นคนนำทาง ตลอดทางเดินไปยังผานกแอ่น มีความมืดเกือบตลอดเส้นทาง ต้องใช้ไฟฉาย หรือไฟจากโทรศัพท์ส่องตามทางเดิน ทุกคนพยายามเดินกันเป็นกลุ่ม และสังเกตไฟส่องทางจากทั้งของพวกเราเอง และจากของนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ที่เดินไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้น หากใครต้องการไปชมพระอาทิตย์ขึ้นจะต้องเตรียมไฟนำทาง หรือไฟฉายให้พร้อม

ภาพโดย ผู้เขียน

เสร็จจากการดูพระอาทิตย์ขึ้น พวกเรากลับมายังที่พัก และรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน โดยระหว่างกำลังที่ทานข้าวอยู่นั้น พบว่า มีน้องกวางแวะมาเยี่ยมชมนักท่องเที่ยวตรงแถวร้านอาหารด้วย น้องกวางไม่ได้มีท่าทีตื่นกลัวนักท่องเที่ยวแต่อย่างใดเลย เหมือนเคยชินกับการพบกับนักท่องเที่ยวที่มายังยอดภูกระดึง

จุดที่ 2 พวกเราตั้งใจเดินทางไปยังน้ำตกวังกวาง และน้ำตกเพ็ญพบใหม่ เพราะเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับที่พัก แต่เมื่อไปถึงกลับพบกับความผิดหวังเล็กน้อย เนื่องจากมีน้ำไหลลงมาจากน้ำตกน้อยมาก สาเหตุน่าจะมาจากช่วงเวลาที่พวกเราไปเป็นช่วงหน้าหนาวปลายปี ไม่ใช่หน้าฝน ดังนั้น จึงขอแนะนำว่าหากใครต้องการเห็นภาพน้ำตกที่สวยงาม มีน้ำไหลลงมามากมายให้ไปช่วงหน้าฝน หรือช่วงเดือนตุลาคมแทน

จุดที่ 3 สระอโนดาต เป็นอีกจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวควรไปเยี่ยมชม เพราะเป็นสระน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่อยู่ท่ามกลางป่าสนที่สวยงาม ตรงพื้นที่นี้ พวกเราทั้งสี่คนแอบงีบพักผ่อนใต้ร่มเงาของป่าสน เนื่องจากบรรยากาศดีมาก มีลมพัดเย็นสบาย ท่ามกลางอากาศหนาว ถือเป็นการพักเอาแรง ก่อนเดินทางไปยังเส้นทางตามผาต่าง ๆ


ภาพโดย ผู้เขียน

จุดที่ 4 ผาเหยียบเมฆ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง โดยตรงผาเหยียบเมฆจะมีลักษณะเป็นลานหิน และมีเนินหินที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยืนเพื่อถ่ายรูปได้ เหมือนกับเราได้ไปยืนบนเมฆ หรือบนท้องฟ้า แนะนำว่าหากทุกคนได้มีโอกาสไปเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะถ่ายรูปตรงจุดนี้


ภาพโดย ผู้เขียน

จุดที่ 5 ผาหมากดูก เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ใกล้กับจุดลานกางเต็นท์ วังกวางที่สุด พวกเราเลือกชมพระอาทิตย์ตกที่จุดนี้ เพราะใกล้ที่พัก และทำให้พวกเรากลับมาถึงที่พักไม่ดึกนัก เมื่อเทียบกับจุดดูพระอาทิตย์ตกบริเวณอื่น ๆ ซึ่งในความจริงแล้ว ความตั้งใจแรกของพวกเราคือ อยากดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันที่ผาหล่มสัก แต่พอเอาเข้าจริง พวกเราเดินไปถึงจุดนั้นไม่ไหว หลังจากที่เดินกันมาตลอดทั้งวัน สุดท้ายเลยเลือกที่จะดูพระอาทิตย์ตกตรงจุดนี้แทน แม้จะไม่ได้ทำตามแผนหรือความตั้งใจแรก แต่พวกเราก็มีความสุขมาก ๆ เพราะได้มีโอกาสใช้เวลา และสร้างความทรงจำร่วมกัน

ภาพโดย ผู้เขียน

ระหว่างเดินทางกลับมายังที่พัก จะต้องเดินผ่านป่าที่มีต้นไม้ แต่ปราศจากใบ และทุ่งหญ้าตามภาพประกอบ เป็นภาพบรรยากาศที่สวยงามไปอีกแบบ บวกกับมีท้องฟ้าสีชมพู เหลือง น้ำเงิน แบบวนิลาสกาย ซึ่งให้ทั้งความรู้สึกอบอุ่น และสงบ ทั้งนี้ ตลอดทางเดินหากใครที่เดินทางไปเที่ยวคนเดียว รับรองว่าไม่เหงา และมีความปลอดภัยแน่นอน แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่มืดค่ำ เพราะมีเพื่อน ๆ นักท่องเที่ยวเดินกลับด้วยกันเป็นจำนวนมาก และจุดนี้ถือเป็นจุดสำคัญสุดท้ายของพวกเราในวันนั้น

ภาพโดย ผู้เขียน

ตลอดทั้งวันที่พวกเราได้นั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าด้วยกัน จนกระทั่งจุดสุดท้ายของวันเราได้นั่งดูพระอาทิตย์ตกด้วยกันอีกครั้ง ถือเป็นความทรงจำที่ดีมาก ๆ และทำให้ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งก่อนแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าไปว่า ทุกสิ่งบนโลกนี้ มีการเริ่มต้น และสิ้นสุดลงไป โดยมี “เวลา” เป็นเครื่องนับถอยหลัง ไม่จีรังเลยสักอย่าง เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะมีโอกาสได้มาร่วมประสบการณ์ชีวิตนี้ด้วยกันอีกไหม แต่หลังจากที่แสงสุดท้ายของวันนี้จบลง “ความทรงจำ” ของพวกเรา ที่คิดถึงกี่ครั้งก็มีแต่ความสุขในใจ จะเริ่มทำงานต่อไปทันที

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องเล่าเกี่ยวกับ “ภูกระดึง” ของพวกเรายังไม่จบเพียงแค่นี้ หากยังไม่เบื่อกัน อยากชวนให้ผู้อ่านทุกท่านติดตามกันอีกครั้งในตอนสุดท้ายที่จะมาเล่าถึงประสบการณ์การเดินลงจากยอดภูกระดึง ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้นโปรดติดตามในตอนต่อไป.....


Tags :

CONTRIBUTOR

Related Posts
Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th