The Prachakorn

ไรเดอร์: ญาติคนใหม่ขวัญใจผู้สูงวัย .....ในครอบครัวยุคดิจิทัล


ประทีป นัยนา

10 มีนาคม 2568
95



ครอบครัวขยายสู่ครอบครัวเดี่ยว: บริบทที่เปลี่ยนไป

ในอดีต ครอบครัวไทยนิยมอยู่ร่วมกันหลายรุ่น ทำให้การดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องง่ายตามธรรมชาติ แต่เมื่อสังคมเปลี่ยนไป ลูกหลานจำนวนมากต้องย้ายถิ่นฐาน ทิ้งให้ผู้สูงอายุอยู่ลำพังในชนบทหรือพื้นที่ห่างไกล   หรือสังคมในเมือง ที่ต้องเร่งรีบและทิ้งให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านเพียงลำพัง ไรเดอร์จึงกลายมาเป็น "ญาติ" คนใหม่ในยุคดิจิทัล ไม่เพียงส่งอาหารและของใช้จำเป็น แต่ยังเชื่อมโยงความรักและความห่วงใยระหว่างครอบครัว

ภาพจาก https://pixabay.com/th/images/search/ -
ตัดต่อภาพโดยผู้เขียน

ไรเดอร์: สายใยใหม่ในครอบครัวไทยยุคดิจิทัล

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครอบครัวไทยในปัจจุบันสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการย้ายถิ่นฐานของคนรุ่นใหม่จากชนบทสู่เมืองเพื่อหางานทำ ส่งผลให้ผู้สูงอายุจำนวนมากต้องอาศัยอยู่ตามลำพัง กับอยู่กับคู่สมรสตามลำพัง โดยขาดการดูแลใกล้ชิดจากลูกหลานเหมือนในอดีต

แนวโน้มการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุในครัวเรือนไทยแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ตามลำพัง กับอยู่กับคู่สมรสตามลำพัง โดยในปี 2564 มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ตามลำพังร้อยละ 12.0 และอาศัยอยู่กับคู่สมรสตามลำพังร้อยละ 21.1 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 10.8 และ 20.0 ตามลำดับ และแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป โดยในปี 2567 สัดส่วนผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพังเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 12.9 และผู้ที่อาศัยอยู่กับคู่สมรสตามลำพังเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 22.6 สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของครัวเรือนไทยที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น และการดูแลจากครอบครัวที่ลดลง1

ในบริบทเช่นนี้ บริการไรเดอร์ (Rider) ได้กลายเป็นตัวกลางสำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างลูกหลานที่อยู่ในเมืองกับผู้สูงอายุที่อยู่ในชนบท โดยไม่เพียงแต่ส่งของจำเป็นหรืออาหาร แต่ยังเป็นช่องทางในการส่งความห่วงใยและความรักจากลูกหลานถึงผู้สูงอายุ แม้จะอยู่ห่างไกลกัน ผู้สูงอายุในชนบทจำนวนมากพึ่งพาบริการไรเดอร์ในการรับสิ่งของจากลูกหลานที่ทำงานในเมือง เช่น ยา อาหาร หรือของใช้จำเป็น ซึ่งช่วยลดความกังวลและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้สูงอายุ2  อย่างไรก็ตาม การใช้บริการไรเดอร์ก็มีข้อควรระวัง โดยเฉพาะปัญหามิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวเข้ามา ทำให้ผู้สูงอายุบางส่วนอาจรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือกังวลใจ ดังนั้น การเลือกใช้บริการจากแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือและมีระบบตรวจสอบที่รัดกุมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้สูงอายุรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น3

ในภาพรวม ไรเดอร์ไม่ได้เป็นเพียงผู้ส่งของ แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวในยุคดิจิทัล ที่แม้จะอยู่ห่างไกลกัน แต่ความห่วงใยและความรักยังสามารถส่งถึงกันได้ผ่านบริการเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม การสื่อสารและการสร้างความเข้าใจระหว่างลูกหลานกับผู้สูงอายุเกี่ยวกับการใช้บริการเหล่านี้ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้สูงอายุรู้สึกปลอดภัยและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม4 จากภาพที่ได้พบเห็นจริง บ้านตรงข้ามของผู้เขียนเป็นบ้านของหญิงชราอายุประมาณ 70 ปี ที่อาศัยอยู่ลำพัง ในขณะที่ลูกชายและลูกสาวทำงานในเมืองใหญ่ ลูกชายและลูกสะใภ้ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อไปทำงาน ส่วนลูกสาวกลับมาเยี่ยมแม่เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ ความเร่งรีบและปัญหาการจราจรทำให้ลูกๆ ไม่สามารถซื้ออาหารหรือสิ่งของจำเป็นให้แม่ได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่ผู้เขียนเห็นจนชินตา คือ ไรเดอร์ที่มากดกริ่งหน้าบ้านเกือบทุกเช้า พร้อมอาหาร ยา หรือของใช้ที่ลูกๆ สั่งผ่านแอปพลิเคชันมาส่งให้แม่ บริการนี้ช่วยลดความลำบากของหญิงชราอย่างมาก เธอไม่จำเป็นต้องเดินทางไปตลาดเอง แต่ยังคงได้รับสิ่งจำเป็นครบถ้วน ไรเดอร์เหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่คนส่งของ แต่เปรียบเสมือน "ญาติ" คนใหม่ที่ช่วยดูแลผู้สูงอายุในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น การส่งอาหารทุกมื้อ หรือการนำยารักษาโรคมาส่งให้ ความสัมพันธ์นี้สะท้อนภาพของครอบครัวไทยในยุคดิจิทัล ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการดูแลความเป็นอยู่ของผู้สูงอายุ

ความสัมพันธ์ระหว่างไรเดอร์และผู้สูงอายุยังถูกสะท้อนผ่านสื่อออนไลน์ เช่น คลิปวิดีโอจากผู้ใช้ Tiktok ชื่อ cwk_080 ที่โพสต์คลิปโมเมนต์สุดซึ้งระหว่างไรเดอร์กับคุณย่าเจ้าของบ้าน ที่ผู้โพสต์ได้ไปส่งพัสดุเป็นเวลานานกว่า 3 ปี จนมีความสนิทสนมกับคุณย่าเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่คุณย่าสามารถจำเสียงรถของผู้โพสต์ได้เลย ถ้าเป็นพนักงานส่งพัสดุคนอื่นคุณย่าจะไม่สนใจ แต่พอเป็นผู้โพสต์เมื่อไหร่คุณย่าก็จะชอบออกมาคุยด้วย5 คุณย่ามอบเงิน 100 บาท พร้อมคำอวยพรและบอกรักอย่างเอ็นดู เหมือนเป็นย่าหลานกันจริง ๆ หลังรู้จักกันมานานกว่า 3 ปี จนสนิทสนม ผู้โพสต์เผยว่าไม่เคยได้รับความรักจากปู่ย่าตายายมาก่อน การได้เจอคุณย่าทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ และขอบคุณที่มอบความรักและเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป6

แม้ว่าไรเดอร์จะได้รับค่าตอบแทนจากการให้บริการ แต่สำหรับผู้ใช้บริการ สิ่งที่ได้รับกลับมานั้นมีคุณค่ามากกว่าเพียงสินค้า นั่นคือความรัก ความสะดวกสบาย และความมั่นใจที่ไรเดอร์มอบให้ในยุคที่ครอบครัวไม่ได้อยู่พร้อมหน้าเหมือนในอดีต ไรเดอร์จึงไม่ได้เป็นเพียง "ผู้ส่งของ" แต่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในสังคมดิจิทัล  บทบาทที่โดดเด่นและคุณค่าที่ไรเดอร์มอบให้นั้น สะท้อนให้เห็นว่า เขาเหล่านั้นได้ช่วยเติมเต็มเหล่านี้:-

  • ลดความลำบากในชีวิตประจำวัน ผู้สูงอายุที่เคยต้องเดินทางไปซื้อของเอง สามารถพึ่งพาบริการไรเดอร์ที่นำสิ่งของจำเป็นมาส่งถึงหน้าประตูบ้าน ช่วยลดข้อจำกัดในการเดินทางและเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
  • สร้างความมั่นใจให้ครอบครัว ลูกหลานที่อาศัยอยู่ห่างไกลสามารถวางใจได้ว่าผู้สูงอายุในครอบครัวจะได้รับสิ่งของตรงเวลาและครบถ้วน แม้พวกเขาจะไม่สามารถดูแลได้ใกล้ชิด
  • เชื่อมโยงความสัมพันธ์ในครอบครัว ไรเดอร์เปรียบเสมือนตัวแทนที่ส่งต่อความรักและความใส่ใจจากลูกหลานถึงผู้สูงอายุ ช่วยสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น  ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบและอยู่ไกลกัน ความสัมพันธ์ในครอบครัวยังแข็งแกร่งได้ด้วยการปรับตัว ไม่ว่าจะผ่านเทคโนโลยี การสื่อสารสม่ำเสมอ หรือการใช้บริการไรเดอร์เพื่อส่งของจำเป็นให้พ่อแม่ แม้จะไม่ใกล้ชิดเหมือนเดิม แต่ความรักและความใส่ใจยังถูกส่งต่ออย่างไม่ขาดสาย ทุกวิธีล้วนแสดงว่า "การดูแลยังมีอยู่เสมอ"
  • การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล โดยช่วยเพิ่มโอกาสการจ้างงาน สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น นอกจากนี้ยังช่วยให้กลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุและผู้พิการ เข้าถึงสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น งานไรเดอร์ยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • เป็นอาชีพที่สร้างความเปลี่ยนแปลง ไรเดอร์ไม่เพียงเป็นอาชีพเสริมสำหรับวัยรุ่น แต่ยังเปิดโอกาสให้กับคนทุกช่วงวัย รวมถึงในพื้นที่ชนบทที่มีข้อจำกัดด้านการจ้างงาน ช่วยกระจายรายได้และสร้างความยั่งยืนในระดับชุมชน

ที่มาไรเดอร์: ตัวกลางสำคัญในยุคดิจิทัล

ไรเดอร์ไม่ได้เป็นเพียงผู้ส่งของ แต่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกลไกที่ช่วยสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เชื่อมโยงความสัมพันธ์ในครอบครัว และส่งมอบคุณค่าทางสังคม ความต้องการบริการไรเดอร์เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่การจัดส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นกลายเป็นหัวใจของชีวิตประจำวัน แนวคิดเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) ได้ผลักดันบริการนี้ในระดับโลก ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Uber Eats และ Deliveroo ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ก่อนจะขยายตัวในเอเชียด้วย Grab และ Foodpanda7

ญี่ปุ่นบริการที่โดดเด่นอย่าง Co-op Deli ได้พิสูจน์ถึงศักยภาพของไรเดอร์ช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงอาหารสดและสินค้าจำเป็นได้อย่างสะดวกสบาย บริการนี้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญ เช่น โตเกียว คานางาวะ และไซตามะ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของสมาชิกผู้สูงอายุ ด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วและปลอดภัย8 สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า

ไรเดอร์ไม่ใช่แค่อาชีพ แต่คือกำลังสำคัญในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนได้อย่างแท้จริง
ประเทศไทย บริการไรเดอร์เติบโตขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 2560 ผ่านแพลตฟอร์มหลัก เช่น Grab LINE MAN และ Foodpanda โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่การจัดส่งกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวัน9

ไรเดอร์ไม่ได้เป็นเพียงผู้ส่งของ แต่ยังช่วยเติมเต็มช่องว่างในครอบครัว ทั้งในด้านการดูแลผู้สูงอายุและความสะดวกสบายในยุคดิจิทัล

(1) จำนวนไรเดอร์ในประเทศไทย  มีประมาณ 300,000 ถึง 400,000 คน ในช่วงต้นปี 256410 โดยแบ่งเป็นไรเดอร์ของแพลตฟอร์มต่าง ๆ ดังนี้: Grab: ประมาณ 200,000 คน; LINE MAN: ประมาณ 100,000 คน; Robinhood: ประมาณ 80,000 คน อย่างไรก็ตาม ไรเดอร์หนึ่งคนอาจทำงานกับหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน ดังนั้น จำนวนไรเดอร์ทั้งหมดอาจมีการนับซ้ำกันได้11 การเพิ่มขึ้นของจำนวนไรเดอร์ ซึ่งไปในทิศทางเดียวกันกับประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว โดยปี พ.ศ. 2567 ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 13,450,391 คน คิดเป็นร้อยละ 20.70 ของประชากรทั้งหมด12

แนวโน้มการใช้บริการไรเดอร์ในกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคที่เน้นความสะดวกสบายมากขึ้น ความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้สูงวัย รวมถึงข้อจำกัดด้านการเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง ปัจจุบันพบว่า 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และนครราชสีมา มีการใช้บริการไรเดอร์มากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ และพฤติกรรมผู้บริโภคในพื้นที่13 แม้จำนวนไรเดอร์ที่ให้บริการยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากมีการเข้าออกของแรงงานในอาชีพนี้บ่อยครั้ง และขาดการบันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบ แต่แนวโน้มการขยายตัวของบริการเดลิเวอรี่ในเมืองใหญ่สะท้อนให้เห็นว่า ผู้สูงอายุมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดนี้ ทั้งในแง่ของการเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักที่พึ่งพาการจัดส่งอาหารและสินค้าถึงบ้าน นอกจากนี้ การแพร่หลายของแพลตฟอร์มดิจิทัลและบริการไรเดอร์ที่มีตัวเลือกเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ เช่น บริการช่วยซื้อของจากซูเปอร์มาร์เก็ต บริการส่งยาถึงบ้าน และการจัดส่งอาหารเพื่อสุขภาพ ได้ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้สูงวัยมากขึ้น สิ่งนี้สะท้อนถึงศักยภาพของตลาดที่ยังสามารถเติบโตต่อไปได้ในอนาคต

(2) รายได้ของไรเดอร์ในประเทศไทยมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่ทำงานและความขยันของแต่ละบุคคล โดยทั่วไป รายได้เฉลี่ยของไรเดอร์อยู่ที่ประมาณ 18,000 บาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ไรเดอร์ประมาณ 10% ที่มีรายได้สูงกว่า 20,000 บาทต่อเดือน และบางส่วนที่มีรายได้สูงถึง 40,000 บาทต่อเดือน สำหรับแพลตฟอร์ม Robinhood รายได้เฉลี่ยของไรเดอร์อยู่ที่ประมาณ 25,000 – 35,000 บาทต่อเดือน14

อนาคต: ไรเดอร์ ญาติคนใหม่ของผู้สูงอายุ

ในอนาคตบทบาทของไรเดอร์ในประเทศไทยอาจพัฒนาไปไกลกว่าการส่งมอบสินค้าแบบดั้งเดิม ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ซึ่งเป็นข้อดีของการพัฒนาบทบาทไรเดอร์ในประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี เช่น

  • การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุผ่านระบบ IoT (Internet of Things)  เช่น สมาร์ตวอทช์หรือเซ็นเซอร์ ช่วยติดตามสุขภาพแบบเรียลไทม์ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และระดับน้ำตาลในเลือด หากพบค่าผิดปกติ ระบบจะแจ้งเตือนให้ไรเดอร์หรือผู้ดูแลทราบทันที เพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว การส่งมอบยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้รวดเร็วและตรงเวลา ไรเดอร์สามารถนำยา อาหารเสริม หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ไปส่งให้ผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การนำโดรนมาปรับใช้ในการบริการไรเดอร์  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่ง โดรนช่วยลดปัญหาการจราจรและเพิ่มความรวดเร็วในการเข้าถึงพื้นที่ชนบท ซึ่งการให้บริการไรเดอร์อาจมีความท้าทายมากกว่าในเมือง เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ถนนที่ไม่สะดวกหรือระยะทางที่ไกล ทำให้การเข้าถึงบริการต่าง ๆ เป็นไปได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี เช่น โดรนอาจเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ โดรนสามารถบินข้ามภูมิประเทศที่ยากลำบากและส่งสินค้าหรือยาไปยังพื้นที่ชนบทได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องพึ่งพาการเดินทางบนถนนที่อาจมีข้อจำกัด สามารถบินข้ามภูมิประเทศที่ยากลำบาก ส่งสินค้าหรือยาได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการเดินทางบนถนน
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระบบ GPS ช่วยวางแผนเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด การติดตามสถานะการส่งมอบแบบเรียลไทม์ ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การยกระดับมาตรฐานการบริการด้วยการอบรม หากภาครัฐและแพลตฟอร์มจัดส่งพัฒนาการอบรมให้ไรเดอร์ เช่น การส่งอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือการจัดส่งยาที่ถูกต้องตามหลักการ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับครอบครัวและผู้ใช้บริการ

เทคโนโลยีไม่เพียงเปลี่ยนวิถีชีวิตของเรา แต่ยังสร้างโอกาสในการส่งเสริมบทบาทของไรเดอร์ในฐานะตัวกลางที่ช่วยเชื่อมโยงและดูแลครอบครัว การยอมรับและสนับสนุนบทบาทนี้อย่างเหมาะสม จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาสังคมไทย โดยเฉพาะการช่วยให้ผู้สูงอายุดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีคุณค่าในยุคดิจิทัล การสนับสนุนบทบาทไรเดอร์อย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงช่วยลดช่องว่างในครอบครัว แต่ยังช่วยสร้างความยั่งยืนในชุมชนและเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต

"ในวันที่โลกเปลี่ยนไป เทคโนโลยีแทนที่ระยะทาง ไรเดอร์...คือคำตอบของความสัมพันธ์ และการดูแลในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล"


อ้างอิง

  1. สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2567). รายงานสถิติประชากรและสังคม. กรุงเทพฯ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
  2. สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2563). การศึกษาบทบาทของบริการไรเดอร์ในการเชื่อมโยงครอบครัวไทย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
  3. กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ. (2565). แนวทางการดูแลผู้สูงอายุในยุคดิจิทัล. กรุงเทพฯ: กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ.
  4. กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2564). การปรับตัวของครอบครัวไทยในยุคสังคมสูงวัย. กรุงเทพฯ: กรมกิจการผู้สูงอายุ.
  5. cwk_080 (2024). จากไรเดอร์สู่หลานชาย [วิดีโอ Tiktok]. Retrieved January 19, 2025, from     https://www.tiktok.com
  6. ไทยรัฐออนไลน์. (2567). โมเมนต์สุดซึ้งของไรเดอร์กับคุณย่าใน Tiktok. Retrieved January 19, 2025, from https://www.thairath.co.th
  7. Co-op Deli Consumers’ Co-operative Union. (n.d.). Co-op Deli: About Us. Retrieved January 19, 2025, from https://www.coopdeli.jp
  8. The Japan Times. (n.d.). Co-op delivery services help Japan's elderly stay independent. Retrieved January 19, 2025, from https://www.japantimes.co.jp
  9. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. (2564). ธุรกิจ Food Delivery ในไทย: โอกาสและความท้าทาย. เข้าถึงเมื่อ 19 มกราคม 2568 จาก https://kasikornresearch.com
  10. Voice. (2564). สภาพการทำงานและสวัสดิการของไรเดอร์ในประเทศไทย. เข้าถึงเมื่อ 19 มกราคม 2568 จาก [https://voicetv.co.th/read/oQnb5Slj1?utm_source=chatgpt.com]
  11. Grab Thailand. (2565). จำนวนไรเดอร์ในระบบ Grab. เข้าถึงเมื่อ 19 มกราคม 2568 จาก https://www.grab.com/th
  12. สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2567). จำนวนประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทย. เข้าถึงเมื่อ 19 มกราคม 2568 จาก https://www.nso.go.th
  13. Digital Economy Promotion Agency. (2565). แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคใน 5 จังหวัดใหญ่. เข้าถึงเมื่อ 19 มกราคม 2568 จาก https://www.depa.or.th
  14. Robinhood. (2565). รายได้เฉลี่ยของไรเดอร์ Robinhood. เข้าถึงเมื่อ 19 มกราคม 2568 จาก https://www.robinhood.in.th

 


Tags :

CONTRIBUTOR

Related Posts
Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th