เชื่อว่าในปัจจุบัน ทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เราสังเกตเห็นคนไทยที่แต่งงานมีคู่แล้วจำนวนมากที่ตัดสินใจไม่มีลูก หรือ ที่มีลูก ส่วนใหญ่ก็มีกันไม่เกิน 1-2 คน ในภาพรวมของประเทศ สถานการณ์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จำนวนการเกิดของเด็กไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยมากถึงกว่า 1 ล้านคนต่อปี ในช่วงพ.ศ. 2506- 2526 หรือที่เรียกเด็กซึ่งเกิดในช่วงนี้ว่า "ประชากรรุ่นเกิดล้าน" (หมายเหตุ ผู้เขียนเข้าใจว่าเป็นคำที่เริ่มใช้โดยท่าน อ.ปราโมทย์ ประสาทกุล) ปัจจุบันจากตัวเลขล่าสุดใน พ. ศ. 2561 ก็ลดลงต่อเนื่องจนเหลืออยู่ที่เพียงประมาณ 666,000 คน เท่านั้น
สาเหตุที่ทำให้คนมีลูกน้อยลงเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยระดับโครงสร้างมหภาค และปัจจัยระดับครัวเรือนหรือปัจเจกบุคคล ซึ่งในส่วนหลังนี้ ปัจจัยหนึ่งที่เป็นข้อกังวลสำคัญของคนที่จะเป็นพ่อแม่ หรือแม้แต่ที่เป็นพ่อแม่แล้ว เป็นในเรื่อง “ภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการเลี้ยงดูบุตร” ที่คนในปัจจุบันนี้จำนวนมาก โดยเฉพาะคนวัย 30-40 ปี ซึ่งเป็นวัยที่กำลังลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวและตัดสินใจเกี่ยวกับการมีลูก (หรืออาจจะมีลูกแล้ว) มีเสียงพึมพรำบ่นและตั้งข้อสังเกตว่า มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับในอดีต หรือ ในสมัยที่คนวัยนี้ถูกเลี้ยงดูจากรุ่นพ่อแม่เมื่อ 20-30 ปีก่อน
คำถาม...แล้วต้นทุน (cost) หรือ ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูก 1 คนในบริบทปัจจุบัน แท้จริงแล้ว โดยเฉลี่ยคิดเป็นเงินสักประมาณเท่าไร ?
ในการตอบคำถามนี้ ผู้เขียนขออ้างอิงข้อค้นพบจากการศึกษาในบทความที่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางเศรษฐศาสตร์ เกี่ยวกับ ต้นทุนการเลี้ยงดูบุตร อายุ 0-14 ปี ซึ่งพบว่า ตลอดระยะเวลา 15 ปี โดยเฉลี่ยมีมูลค่ารวมเป็นเงินประมาณ 1.57 ล้านบาท (ยังไม่คิดอัตราเงินเฟ้อ) หรือคิดเป็นต่อปี ตกประมาณปีละ 1แสนกว่าบาท อย่างไรก็ตาม มูลค่านี้ไม่ได้เป็นต้นทุนหรือภาระค่าใช้จ่ายที่แบกรับโดยผู้ที่เป็นพ่อแม่หรือครอบครัวของเด็กเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงต้นทุน หรือภาระค่าใช้จ่ายที่แบกรับโดยภาครัฐหรือรัฐบาลด้วย ในลักษณะการจัดบริการสาธารณะหรือการอุดหนุนด้านการศึกษา บริการสุขภาพ และด้านอื่นๆ ให้กับเด็กในช่วงอายุ 0-14 ปี ซึ่งหากคิดเป็นสัดส่วนแล้ว ในจำนวนเงิน 1.57 ล้านบาทเป็นส่วนที่รับผิดชอบโดยพ่อแม่หรือครอบครัวที่ประมาณ 765,000 บาท (ร้อยละ 49) และรับผิดชอบโดยภาครัฐประมาณ 807,000 บาท (ร้อยละ 51) เมื่อคำนวณแล้ว ส่วนที่รับผิดชอบโดยพ่อแม่หรือครอบครัว จะอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท ต่อปี หรือต่อเดือน ก็ประมาณ 4,250 บาท
พ่อแม่จำนวนหนึ่ง เมื่อเห็นตัวเลขนี้แล้วอาจจะคิดในใจว่า "ไม่จริงมั้ง" ต่อเดือนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกที่เป็นอยู่ สูงกว่าตัวเลขนี้มาก ซึ่งตรงนี้ก็อาจเป็นเพราะ ตัวเลขนี้เป็นต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรที่เป็น “ค่าเฉลี่ย” ของทั้งประเทศ ซึ่งในบทความที่อ้างถึง ได้มีการวิเคราะห์จำแนกตามระดับเศรษฐานะของครอบครัวด้วย ซึ่งพบว่า ต้นทุนหรือภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรอายุ 0-14 ปี เฉพาะในส่วนที่เป็นค่าใช้จ่ายของภาคเอกชน (หมายถึง ของพ่อแม่หรือครอบครัวเท่านั้น) ของพ่อแม่กลุ่มที่มีรายได้น้อยที่สุด 20% (ภาษาทางวิชาการเรียก “ควินไทล์” หรือ quintile 1) ตกอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน ขณะที่ของพ่อแม่กลุ่มที่มีรายได้สูงที่สุด 20% (หรือ quintile 5) สูงกว่ามากโดยอยู่ที่ประมาณ 13,000 บาทต่อเดือน ส่วนของพ่อแม่กลุ่มรายได้ปานกลาง (หรือ quintile 3) ตกอยู่ที่เดือนละประมาณ 4,500 บาท ซึ่งต้นทุนในที่นี้ รวมค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ทั้งด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ และด้านอื่นๆ ที่น่าสนใจคือ หากดูเฉพาะ “ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา”เท่านั้น พูดง่ายๆก็ คือ ค่าเทอม หรือ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเล่าเรียนของลูก พบว่า ค่าใช้จ่ายของพ่อแม่กลุ่มที่มีรายได้สูงที่สุด คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าค่าใช้จ่ายของพ่อแม่กลุ่มที่มีรายได้น้อยที่สุด ถึง 35 เท่า ซึ่งตัวเลขตรงนี้ สะท้อนให้เห็นความแตกต่าง หรือในมุมหนึ่งก็คือ ความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษาที่ยังคงมีอยู่ในสังคมไทย ในด้านหนึ่ง ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรที่มีมูลค่าสูงกว่ามาก ในกลุ่มพ่อแม่ที่มีรายได้สูงนี้ อาจเหมือนเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นธรรมต่อพ่อแม่กลุ่มรายได้สูง แต่ในอีกด้านหนึ่ง ค่าใช้จ่ายในด้านการศึกษาของบุตรก็เปรียบเหมือน "การลงทุน" ซึ่งถ้ายิ่งลงทุนได้มาก ในระยะยาวก็มีแนวโน้มได้ผลตอบแทนกลับคืนในอัตราที่สูงกว่า ซึ่งหากมองเช่นนี้ ในระยะยาว ความเหลื่อมล้ำทางสังคมในด้านอื่นๆ ก็อาจจะมีช่องว่างที่เพิ่มมากขึ้นตามมาไปอีก ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมไทยควรหันกลับมาพิจารณา
ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่ารัฐบาลไทยได้เริ่มใช้มาตรการและนโยบายเพื่อกระตุ้นส่งเสริมให้คนไทยมีลูกกันเพิ่มขึ้นมาซักระยะหนึ่งแล้ว เช่นไม่นานนี้ ที่มีการปรับเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรตั้งแต่คนที่ 2 เป็นต้นไป โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาทต่อเดือน (โดยเฉพาะ กลุ่มมารดาที่มีรายได้น้อยหรือยากจน) การพิจารณาเกี่ยวกับการขยายสิทธิวันลาคลอดของแม่และพ่อ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จะประสบความสำเร็จในการกระตุ้นให้คนไทยมีลูกเพิ่มขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก แต่สิ่งหนึ่งที่ทำได้และควรให้ความสำคัญ คือ จะทำอย่างไรที่จะทำให้การเกิด (ของเด็กไทย) ทุกการเกิด เป็นการเกิดที่มีคุณภาพและได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพและทุนมนุษย์เท่าเทียมกัน...
ต้นทุนการเลี้ยงดูบุตร (อายุ 0-14 ปี) ต่อคน คำนวนจากมูลค่ารายจ่ายเพื่อการบริโภคของประชากรรายอายุ จำแนกตามระดับเศรษฐานะของครัวเรือน (quintiles) และภาคเศรษฐกิจ (หน่วย บาท)
ด้านการศึกษา | ด้านสุขภาพ | ด้านอื่นๆ | รวม | ||||||
พ่อแม่/ครอบครัว | ภาครัฐ | พ่อแม/ครอบครัว | ภาครัฐ | พ่อแม่/ครอบครัว | ภาครัฐ | พ่อแม่/ครอบครัว | ภาครัฐ | รวม | |
Q1 (20% จนที่สุด) | 9,504 | 484,277 | 17,688 | 41,881 | 337,084 | 314,720 | 364,277 | 840,878 | 1,205,155 |
Q2 | 21,072 | 466,609 | 35,399 | 46,443 | 521,740 | 314,720 | 578,211 | 827,772 | 1,405,983 |
Q3 | 44,486 | 435,745 | 55,840 | 55,300 | 710,108 | 314,720 | 810,434 | 805,766 | 1,616,200 |
Q4 | 95,841 | 366,699 | 88,461 | 82,832 | 998,009 | 314,720 | 1,182,311 | 764,251 | 1,946,562 |
Q5 (20% รวยที่สุด) | 332,745 | 265,941 | 253,514 | 86,858 | 1,795,678 | 314,720 | 2,381,937 | 667,519 | 3,049,455 |
รวมทั้งหมด | 56,219 | 438,369 | 56,421 | 54,318 | 653,073 | 314,720 | 765,714 | 807,407 | 1,573,121 |
ที่มา ปรับจาก เฉลิมพล, สุภรต์ และณัฐณิชา (2562)
Photo by rawpixel.com from Pexels