The Prachakorn

คนไทยยอดนักเดินทาง แห่เที่ยวนอกกว่า 10 ล้านคน


สักกรินทร์ นิยมศิลป์

13 พฤศจิกายน 2562
520



เมืองมรดกโลก เชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) ในสาธารณรัฐเช็คที่ชาวเอเชียกำลังนิยม

ผมได้เดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่ฝรั่งเศสและสาธารณรัฐเช็คเมื่อเร็วๆ นี้ และมีโอกาสไปเยี่ยมชมบางเมืองในสหภาพยุโรปที่ไม่ได้อยู่บนเส้นทางหลักของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ แต่กลับพบว่า นักท่องเที่ยวจากเอเชียเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักในแทบทุกเมืองที่ไปเยือน หากไม่นับรวมชาวยุโรปด้วยกันเอง โดยจะพบนักท่องเที่ยวชาวเอเชียจำนวนมากจากสามชาติด้วยกัน คือ จีน เกาหลีใต้และไทย ไม่ว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างปารีสและปราก หรือเมืองขนาดกลางและเล็กอย่าง ซาลซ์บูร์ก (Salzburg) เชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) ฮัลชตัท (Hallstatt) และเบลด (Bled) ผมก็พบนักท่องเที่ยวจากเอเชียจำนวนมากแทบทั้งสิ้น จนไม่แน่ใจว่าตนเองอยู่ในยุโรปหรือเมืองยุโรปจำลองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียกันแน่

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากกำลังนิยมเดินทางไปต่างประเทศ จนตัวเลขในปี พ.ศ. 2561 ทะลุเกิน 10 ล้านคนแล้ว ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TIC) เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจากจำนวน 3.91 ล้านคนในปี 2551 เป็น 5.86 ล้านคนในปี 2555 และพุ่งขึ้นเป็น 8.83 ล้านคนในปี 2560 ก่อนที่จะทะลุเป็นจำนวนกว่า 10 ล้านคนในปี 2561 ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยยังจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 10.55-10.75 ล้านคนในปี 25621  ซึ่งสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยจุดหมายปลายทางลำดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวไทยคือญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ เวียดนาม และออสเตรเลีย คาดว่านักท่องเที่ยวไทยจะใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2562 มากถึง 385,000-390,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 4.5-6.12 เงินจำนวนดังกล่าวนับว่ามากโขอยู่ ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TIC) เปิดเผยว่า ประเทศที่คนไทยนำเงินไปใช้มากที่สุดในปี 2560 ได้แก่ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ลาว จีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง สหราชอาณาจักร และตะวันออกกลาง 

หมู่บ้านฮัลชตัท (Hallstatt) ในออสเตรียซึ่งกำลังโด่งดัง

สาเหตุที่ชาวไทยพากันแห่ไปเที่ยวต่างประเทศจำนวนมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จนมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวก็เนื่องมาจากหลายปัจจัย อาทิ ค่าตั๋วเครื่องบินที่ถูกลงจากการแข่งขันของสายการบินต้นทุนต่ำ ค่าเดินทางท่องเที่ยวและแพ็คเกจทัวร์ที่ลดราคาลงจากการแข็งค่าของเงินบาท การยกเว้นการตรวจลงตราให้กับนักท่องเที่ยวไทยของประเทศญี่ปุ่น กลุ่มชาติอาเซียน เกาหลีใต้ และไต้หวัน เป็นต้น และการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและสมาร์ทโฟนที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถจองที่พัก สายการบินและบริการด้านการท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

สำหรับแนวโน้มการท่องเที่ยวของชาวไทย นั้น Skyscanner ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ได้วิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้าของนักท่องเที่ยวชาวไทยและพบแนวโน้มด้านการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ดังนี้3  1) คนไทยนิยมจองตั๋วเครื่องบินแบบหรูมากขึ้นทั้งแบบ Business Class และ Premium Economy Class โดยปัจจุบันไทยรั้งอันดับ 4 ของนักท่องเที่ยวจากเอเชียและแปซิฟิกที่มียอดจองตั๋วแบบ Business Class จะเป็นรองก็แค่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และเกาหลีใต้เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงอำนาจซื้อของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่อยู่ในลำดับต้นๆ ของเอเชียเลยทีเดียว 2) คนไทยกำลังสนใจแหล่งท่องเที่ยวที่สดใหม่เพิ่มขึ้น โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ขึ้นมาติด 100 ลำดับแรกของการค้นหา เช่น ดาลัดในเวียดนาม ชัยปุระในอินเดีย ทบิลีซีในจอร์เจีย เป็นต้น ซึ่งในอนาคตอาจมีการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่หลากหลายมากขึ้น 3) นักท่องเที่ยวไทยมีการเตรียมตัวก่อนเดินทางนานขึ้นจาก 43 วัน เป็น 45 วัน โดยมีการค้นหาข้อมูลการเดินทางล่วงหน้าและเปรียบเทียบราคาเพื่อให้ได้ดีลที่ดีที่สุด โดยใช้เวลาค้นหานานขึ้น แต่ใช้เวลาตัดสินใจน้อยลง 4) ค่าตั๋วเครื่องบินจากไทยไปยังเมืองใหญ่ๆ ของโลกมีแนวโน้มลดลงจากการแข่งขันด้านราคาและค่าเงินบาทที่เข็งขึ้น ทำให้ชาวไทยมีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศในราคาที่ประหยัดกว่าเดิม

สรุป

ประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางที่สำคัญของการท่องเที่ยวโลก แต่ประเทศไทยกำลังกลายเป็นประเทศต้นทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มที่สำคัญกลุ่มหนึ่งในตลาดการท่องเที่ยวโลก และแนวโน้มดังกล่าวกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดการท่องเที่ยวทั้งขาเข้า (inbound) และขาออกไปต่างประเทศ (outbound) ที่เติบโตขึ้น ช่วยทำให้ประเทศไทยทวีความสำคัญขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านการเดินทาง ศูนย์กลางโลจิสติกส์และบริการด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลายสิบล้านคนที่เดินทางผ่านเข้าออกประเทศไทย ทำให้สายการบินจำนวนมากบินมายังไทย ก่อให้เกิดการแข่งขันด้านราคาและบริการ อีกทั้งเส้นทางการบินที่เชื่อมโยงไทยกับจุดหมายปลายทางจากทุกมุมโลกและโลกยุคดิจิทัลที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักเดินทางก็ช่วยให้การเดินทางในยุคปัจจุบันมีราคาที่สมเหตุสมผล สะดวกและสบายมากขึ้น แต่อย่าไปเที่ยวต่างประเทศจนลืมประเทศไทยนะครับ ประเทศไทยเรามีสถานที่สวยงาม ที่พักหลากหลายและอาหารรสเลิศที่ไม่แพ้ประเทศไหนในโลก หากท่านมีเวลาท่องเที่ยวไม่มาก การท่องเที่ยวในประเทศถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งและช่วยให้เศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศอีกด้วยครับ


อ้างอิง

1 สืบค้นจาก https://www.bltbangkok.com/CoverStory/ท่องเที่ยว-เที่ยวญี่ปุ่น-เที่ยวต่างประเทศ, วันที่ 30 ตุลาคม 2562
2 สืบค้นจาก https://thailandtic.com/th/graph/outbound/index, วันที่ 30 ตุลาคม 2562
3 https://www.skyscanner.co.th/media/travel-trend/thailand-travel-trend/big-data-thai-travel-trend, วันที่ 30 ตุลาคม 2562


Tags :

CONTRIBUTOR

Related Posts
Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th