The Prachakorn

เคปทาวน์ ตอนที่ 4 ตามหา “Big Five” กับประสบการณ์ดำน้ำ 14 องศาเซลเซียส


รีนา ต๊ะดี

10 ธันวาคม 2563
296



หลังจากท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ รอบ ๆ เคปทาวน์แล้วก็ถึงเวลาออกตามหาสัตว์ใหญ่ “Big Five” ได้แก่ ช้าง แรด สิงโต เสือดาว และควายป่า ซึ่งต้องนั่งรถออกไป 2.5 ชั่วโมง ยัง Inverdorn Game Reserve  ที่นี่เป็นอุทยานเอกชนขนาดกว่า 10,000 เอเคอร์ การจะไปตามหาสัตว์จะต้องมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานพานั่งรถจี๊ปไป ก่อนจะขึ้นรถ เจ้าหน้าที่จะชี้แจงกฎเพื่อความปลอดภัย เช่น ห้ามลงจากรถ ห้ามยื่นแขนขาออกจากตัวรถ และให้ปิดสัญญาน GPS ที่โทรศัพท์เคลื่อนที่และกล้องถ่ายรูป เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อาชญากรรู้ตำแหน่งของสัตว์ในอุทยานและอาจจะมาล่าสัตว์ไปขายได้  สัตว์ใหญ่ทั้ง 5 กระจายตัวอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในอุทยาน โดยไม่ได้ถูกขังกรง มีเพียงรั้วที่กั้นบริเวณกว้างไว้สำหรับสัตว์ที่เป็นนักล่าอย่างเสือและสิงโตเท่านั้น เราใช้เวลานั่งรถจี๊ป 2-3 ชั่วโมง ลัดเลาะไปตามทุ่งหญ้าและพุ่มไม้ต่าง ๆ จนพบสัตว์ใหญ่เกือบทุกชนิดยกเว้นแรด แม้ว่าแดดจะแรง แต่อากาศในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนก็เย็นสบาย ไกด์ของเราขี้เล่น จึงมักตั้งใจขับรถจี๊ปไปลงบ่อโคลนพาให้โคลนกระเด็นมาเปื้อนเปรอะเสื้อผ้าและหน้าตาอยู่บ้าง นอกจากเราจะได้เจอสัตว์ใหญ่แล้ว เรายังได้เห็นฝูงม้าลายและยีราฟ คุ้มค่ากับที่ต้องเปื้อนโคลนเช่นนี้

นอกจากนั้น ฉันยังได้มีโอกาสการดำน้ำที่เคปทาวน์ ความจริงแล้ว เป้าหมายของฉันคือการออกไปตามหาฉลามสีน้ำเงิน (Blue shark or mako shark) แต่โชคร้าย อากาศไม่ดี ทำให้มีคลื่นลมแรง จึงไม่สามารถออกเรือไปยังจุดที่พบฉลามชนิดนี้ได้ เราจึงเปลี่ยนแผนไปดำน้ำที่บริเวณชายฝั่งกันแทน ซึ่งไดฟ์หลีดของเราบอกกับเราว่าสามารถพบแมวน้ำได้ ฉันรู้มาว่าที่แอฟริกาใต้ น้ำจะเย็นกว่าที่ประเทศไทยและที่อื่นที่ฉันเคยไปดำน้ำมา ครั้งนี้จึงเช่าอุปกรณ์ดำน้ำของร้านที่เคป ทาวน์ทั้งหมด ไดฟ์หลีดแนะนำให้ฉันใส่เวทสูทที่มีความหนากว่าปกติที่ฉันเคยใส่ มันหนามากจนฉันงอแขนไม่ได้ และยังให้ฉันใส่เวทสูทแขนกุดทับอีกชั้นหนึ่งเพราะกลัวฉันจะหนาว นอกจากนี้ยังหมวกคลุมศรีษะเพื่อให้หูและศรีษะอบอุ่น เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยเราก็เดินไปลงเรือยาง คนขับเรือพาเราวนไปจุดดำน้ำที่มีซากเรือจม ทีใกล้ ๆ มีโขดหินที่มีแมวน้ำนอนเล่นอยู่เต็มไปหมด  เราต้องผ่านบริเวณที่เป็นน้ำวนแบบเครื่องซักผ้า (washing machine) กระแสน้ำบริเวณนั้นแรงมากจนเราไม่สามารถลงไปดำน้ำดูซากเรือจมได้ จึงต้องนั่งเรือผ่านเครื่องซักผ้าอีกครั้งเพื่อไปดำน้ำอีกจุดหนึ่ง เครื่องซักผ้าทำฉันและเพื่อนร่วมดำน้ำอีก 2-3 คนเวียนหัวจนต้องอาเจียน เมื่อหลุดออกมาได้แล้วเราก็ต้องรีบใส่อุปกรณ์ดำน้ำกันอย่างทุลักทุเลเพื่อลงดำน้ำในจุดใหม่ เมื่อพร้อมแล้วไดฟ์หลีดให้สัญญานทุกคนหงายหลังลงน้ำ (back roll) น้ำเย็นยะเยือกสัมผัสทุกอณูในร่างกายฉัน ฉันพยายามทำให้ตัวจมน้ำ แต่นั่นเป็นเรื่องที่ยากมากเพราะเวทสูทหนาที่ฉันใส่อยู่มันทำให้ฉันลอย! ฉันคิดว่าศรีษะฉันพ้นผิวน้ำไปได้สักฟุตหนึ่ง ฉันก็เริ่มมองอะไรไม่เห็น ฉันพยายามเคลียร์หน้ากากอย่างทุลักทุเลเพราะงอแขนไม่ได้ แต่ก็ยังมองเห็นได้ไม่ชัด ฉันเริ่มรู้สึกกังวลเพราะขนาดมือของตัวเองที่ยื่นออกไปตรงหน้าเพื่อส่งสัญญานให้กับบัดดี้ก็ยังมองไม่เห็นเลย ฉันจึงส่งสัญญานบอกบัดดี้ว่าฉันไม่โอเคและจะขึ้นจากน้ำโดยที่ไม่สนใจว่าบัดดี้จะเห็นหรือไม่ ฉันตัดสินใจขึ้นจากน้ำ เรือยางมารับฉันขึ้นเรือในขณะที่นักดำน้ำคนอื่นๆยังอยู่ใต้น้ำ นักดำน้ำอีกคนหนึ่งตัดสินใจขึ้นจากน้ำมานั่งอยู่บนเรือรอเพื่อนๆเหมือนกับฉัน เราแบ่งขนมกันและพูดคุยกันเล็กน้อย ไม่นานนักดำน้ำทั้งหมดจะขึ้นจากน้ำเพราะไดฟ์หลีดไม่สามารถนำทางได้เนื่องจากน้ำขุ่นมาก  ร้านดำน้ำคืนเงินค่าดำน้ำทั้งหมดให้เราและพาเราไปส่งที่โรงแรม ไดฟ์หลีดเล่าว่าความจริงแล้ววันนี้น้ำอุณหภูมิ 14 องศาเซลเซียส ถือว่าน้ำค่อนข้างอุ่นเมื่อเทียบกับช่วงอื่น การดำน้ำครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จเพราะสภาพอากาศไม่เป็นใจทำให้การมองเห็นใต้น้ำแย่มาก 

จบการเดินทางใน เคป ทาวน์ ดินแดนที่ฉันไม่เคยจินตนาการว่าจะพาตัวเองไปท่องเที่ยวได้ ฉันหลงรัก เคป ทาวน์ ที่มีศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลาย ธรรมชาติที่สวยงาม และการผจญภัยในอุทยานและใต้น้ำ แม้การดำน้ำเย็นอุณหภูมิ 14 องศาเซลเซียสที่ระดับความลึก 1 ฟุตของฉันจะจบลงในเวลาสั้น ๆ เพียง 2-3 นาที แต่ฉันก็สนุกมาก ฉันหวังว่าจะกลับไปที่เคปทาวน์อีกเพื่อปลดล็อกสัตว์ใหญ่อีกหนึ่งชนิดที่ฉันยังไม่เจอ และยังอยากไปดำน้ำกับแมวน้ำ ไปตามหาฉลามสีน้ำเงินให้ได้ด้วย

สิงโตคู่หนึ่งกำลังนอนขี้เกียจอยู่ใต้ร่มไม้ มีนักท่องเที่ยวกำลังมองดูอยู่อีกฟากหนึ่ง

ควายป่าขวางทางจนเราต้องหยุดรอก่อนจะผ่านไปได้ 

 

ช้างกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเรา ช้างตัวนี้เหลืองากิ่งเดียวเพราะไม่สบายจนต้องตัดงาออก
มันจึงชอบเดินมาอ้อนเวลาพบนักท่องเที่ยว

เสือดาวคู่หนึ่งกำลังพักผ่อนอยู่ใต้ร่มไม้
 

เจ้ายีราฟกำลังเล็มใบไม้กิน

เจ้าหน้าที่ที่นี่ม่มีใครกลัวสัตว์ป่า แต่ทุกคนกลัวมากกว่าว่าสัตว์ป่าจะตกอยู่ในอันตราย จึงมีการแปะป้ายขู่ว่าที่นอแรดมียาพิษและได้ฉีดสีไว้ หากใครมาล่าเอานอแรดไปก็จะสามารถถูกจับได้

นักท่องเที่ยวนั่งอยู่บนรถจี๊ป ห้ามลงจากรถจี๊ปหรือยื่นแขนขาออกจากรถจี๊ปโดยเด็ดขาด

รถจี๊ปของฉัน

เปิดประสบการณ์ดำน้ำเย็นอุณหภูมิ 14 องศาเซลเซียสที่ระดับความลึก 1 ฟุตเป็นเวลา 2-3 นาที 
ในชุดเวทสูทหนาจนงอแขนลำบาก
 



CONTRIBUTOR

Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th