โดย อ.ดร.สุดปรารถนา ดวงแก้าว คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาล้ัยมหิดล
ตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 คนญี่ปุ่นยุคเบบี้บูม (กลุ่มคนเหล่านี้เกิดระหว่างปี 1947-1949 ซึ่งเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพิ่งยุติลง) เริ่มเกษียณอายุการทำงาน รัฐบาลญี่ปุ่นตระหนักถึงภาระค่าใช้จ่ายในระบบเงินบำนาญและระบบประกันสุขภาพที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ญี่ปุ่นส่งเสริมให้คนวัยเกษียณเดินทางไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ จนมีเสียงวิพากย์วิจารย์ว่าญี่ปุ่นส่งออกคนแก่เสมือนส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดตะวันตก จนกระทั่งปี 1992 รัฐบาลญี่ปุ่นจึงก่อตั้งสมาคมลองสเตย์แห่งญี่ปุ่นขึ้นเพื่อสนับสนุนการให้ข้อมูลแก่ผู้ที่สนใจเดินทางไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศระยะยาว จนกระแส “ลองสเตย์” และนิยามคำนี้ว่าเป็นการไปเพื่อเรียนรู้หาประสบการณ์ใหม่ๆ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับคนท้องถิ่น
ช่วงปลายทศวรรษ 1990 ประเทศแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะมาเลเซียและไทยได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่อบอุ่น เดินทางสะดวก และค่าครองชีพถูกกว่าที่ญี่ปุ่น นอกจากนี้รัฐบาลประเทศแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ตอบรับโดยการเสนอวีซ่าสำหรับลองสเตย์เยอร์หรือผู้พำนักระยะยาว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและนำรายได้เข้าสู่ประเทศในระยะยาว
การเข้ามาของคนญี่ปุ่นสูงวัยในประเทศไทยทำให้เกิดประเด็นหลายประการเกี่ยวกับการปรับตัววิถีชีวิต และการแลกเปลี่ยนข้ามวัฒนธรรมนำมาซึ่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม เกิดกระแสการท่องเที่ยวแบบระยะยาว การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การก่อตัวของชุมชนคนญี่ปุ่น การแลกเปลี่ยนระหว่างสองวัฒนธรรม รวมถึงการต่อรองด้านมาตรการตรวจคนเข้าเมืองและเงื่อนไขในการได้รับอนุญาตพำนักในเมืองไทย
Facebook Link: https://fb.watch/36cDAI8wT-/


มนสิการ กาญจนะจิตรา

วาทินี บุญชะลักษี

อมรา สุนทรธาดา

วรรณี หุตะแพทย์,ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต

ศุทธิดา ชวนวัน

สักกรินทร์ นิยมศิลป์

นุชราภรณ์ เลี้ยงรื่นรมย์

อมรา สุนทรธาดา

สักกรินทร์ นิยมศิลป์

อมรา สุนทรธาดา

จงจิตต์ ฤทธิรงค์,ธนพร เกิดแก้ว

ปราโมทย์ ประสาทกุล

อภิชาติ จำรัสฤทธิรงค์

อารี จำปากลาย

ปราโมทย์ ประสาทกุล