The Prachakorn

ความเปราะบางของแรงงานสูงอายุไทย


เฉลิมพล แจ่มจันทร์

09 มิถุนายน 2564
1,453



ข้อมูลจากโครงการสถานการณ์และแนวโน้มสภาพการทำงานของผู้สูงอายุไทย: การวิเคราะห์จากข้อมูลการสำรวจระดับประเทศ1 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบแนวโน้มการทำงานของผู้สูงอายุไทยที่ลดลงในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา จากข้อมูลในไตรมาส 3 ของแต่ละปี ร้อยละของผู้มีงานทำอายุ 60 ปีขึ้นไปในประเทศลดลงจากร้อยละ 38.9 ในปี 2547 เป็นร้อยละ 34.5 ในปี 2562 ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวตรงข้ามกับสิ่งที่ควรจะเป็นในสังคมไทยที่กำลังจะเป็นสังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ ที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นโดยที่จำนวนมากยังคงมีสุขภาพดีและมีแนวโน้มอายุยืนยาวกว่าในอดีต

การยังมีงานทำและสามารถคงอยู่ในตลาดแรงงานที่ยาวนานขึ้นของผู้สูงอายุ เพื่อให้มีรายได้และสามารถพึ่งพาตนเองได้ทางเศรษฐกิจ (โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 60-64 ปี ที่จำนวนมากไม่ใช่เพียงต้องพึ่งพาตนเอง แต่ยังคงต้องเป็นเสาหลักหารายได้ให้กับครอบครัว) จึงเป็นสิ่งที่ควรส่งเสริมและสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสถิติและข้อค้นพบจากการศึกษาที่ผ่านมาจำนวนหนึ่งได้สะท้อนให้เห็นว่า แรงงานสูงอายุไทยยังคงประสบกับข้อจำกัด “ความเปราะบาง” ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานอยู่ในหลายเรื่อง ซึ่งผู้เขียนจะยกเป็นตัวอย่างบางประเด็นในบทความนี้

เรื่องแรก

ความเปราะบางจากความจำเป็นที่ทำให้ยังคงต้องทำงาน แม้ไม่พร้อม ในที่นี้ หมายถึง ความจำเป็นที่ยังต้องหาเลี้ยงตนเอง หาเลี้ยงสมาชิกคนอื่นในครอบครัว หรือ ใช้หนี้สินที่ยังติดค้าง ซึ่งในประเด็นนี้ การศึกษาการโอนทางเศรษฐกิจระหว่างรุ่นประชากรในสังคมสูงอายุไทยที่จัดทำข้อมูลบัญชีกระแสการโอนประชาชาติ (National Transfer Account: NTA)2 ของไทยในปี 2560 ได้แสดงข้อมูลที่ชัดเจนว่าผู้สูงอายุไทย 60-69 ปี ไม่ใช่ผู้พึ่งพิง แต่เป็นผู้ให้การจุนเจือทางเศรษฐกิจแก่สมาชิกในครัวเรือนคนอื่นๆ มากกว่า หลายคนจึงยังคงต้องทำงานเพื่อหารายได้แม้อาจจะไม่ต้องการหรือไม่พร้อมในหลายด้าน โดยเฉพาะ ด้านสุขภาพ ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจประชากรสูงอายุ พ.ศ. 2560 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) พบว่า มีเพียงประมาณ 3 ใน 5 ของผู้สูงอายุที่ยังคงทำงานที่รายงานว่า “สุขภาพดีถึงดีมาก”

เรื่องที่สอง

ความเปราะบางจากการไม่มีหลักประกันคุ้มครองการทำงานอย่างเหมาะสม แรงงานสูงอายุเกือบร้อยละ 90 เป็นกลุ่มแรงงานนอกระบบ ที่มีสถานภาพการทำงานในลักษณะการทำงานหรือประกอบธุรกิจส่วนตัวที่ไม่มีลูกจ้าง และการช่วยเหลือกิจการของครอบครัวโดยไม่ได้รับค่าจ้าง โดยเฉพาะในภาคการเกษตร การค้าขายหรือบริการทั่วไป ซึ่งข้อมูลจากการสำรวจแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2563 โดย สสช. พบ 3 ปัญหาหลักการทำงานที่แรงงานสูงอายุประสบมากที่สุด ได้แก่ ปัญหาค่าตอบแทน (ที่อาจจะน้อยหรือไม่เป็นธรรม) ปัญหางานหนัก (ที่อาจจะไม่เหมาะกับอายุและสภาพร่างกาย) และปัญหางานขาดความต่อเนื่อง (ที่อาจจะไม่มีความมั่นคงและขาดความต่อเนื่องของรายได้) ตามลำดับ

ที่มา: ประมวลจากการสำรวจแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2563

เรื่องที่สาม

ความเปราะบางจากการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในตลาดแรงงานจากความต้องการทักษะใหม่ๆ ที่จำเป็นต่อการทำงานในยุคปัจจุบันและอนาคต อย่างเช่นในยุคโควิด-19 ที่ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมีความจำเป็นเพิ่มมากขึ้นในการทำงาน การสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน พ.ศ. 2561 โดย สสช. พบว่า แรงงานสูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ใช้อินเทอร์เน็ตไม่เป็นมีมากถึงร้อยละ 71.9 ซึ่งแรงงานสูงอายุกลุ่มนี้ จะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้าง หรือสูญเสียงานจากการที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับบริบทการทำงานที่เปลี่ยนไป

นอกจาก 3 ประเด็นที่หยิบยกมาข้างต้น ความเปราะบางที่แรงงานสูงอายุต้องประสบน่าจะยังมีอีกหลายเรื่อง หนึ่งในนั้น น่าจะเป็น “วยาคติ” หรือ การเลือกปฏิบัติที่เป็นผลมาจากวัยที่อาจจะมีต่อแรงงานสูงอายุ จากนายจ้างหรือเพื่อนร่วมงานในที่ทำงาน หรือแม้แต่จากสมาชิกในครอบครัว ที่ส่วนหนึ่งอาจมองว่าวัยสูงอายุ เป็นวัยที่ผู้สูงอายุควรหยุดทำงาน พักผ่อนอยู่บ้าน หรือออกจากงานมาช่วยดูแลสมาชิกคนอื่นในครอบครัว ซึ่งในอนาคตตามที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องของบทความนี้ ในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุไทยได้ทำงานและมีงานทำที่ยาวนานขึ้น การขจัดหรือบรรเทาความเปราะบางและอคติทางสังคมที่มีต่อการทำงานของผู้สูงอายุเหล่านี้ การส่งเสริมความพร้อมในการทำงานและความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของงานในอนาคตให้กับผู้สูงอายุ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายในสังคมต้องช่วยกันคิด ทำ และสนับสนุน


อ้างอิง

  1. เฉลิมพล แจ่มจันทร์ และสุภรต์ จรัสสิทธิ์. (2564). สถานการณ์และแนวโน้มสภาพการทำงานของผู้สูงอายุไทย: การวิเคราะห์จากข้อมูลการสำรวจระดับประเทศ. (เอกสารทางวิชาการ/ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล; หมายเลข 535)
  2. เฉลิมพล แจ่มจันทร์ สุภรต์ จรัสสิทธิ์ และ ณัฐณิชา ลอยฟ้า. (2562). การโอนทางเศรษฐกิจระหว่างรุ่นประชากรในสังคมสูงอายุไทย. (เอกสารทางวิชาการ/สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล; หมายเลข 491)

 



CONTRIBUTOR

Related Posts
โลกแคบลง เมื่ออายุมากขึ้น

ปราโมทย์ ประสาทกุล

เธอกำหนดชีวิตของเธอเอง

ปราโมทย์ ประสาทกุล

Work from home ไม่เหงา...เท่า Care from home

จงจิตต์ ฤทธิรงค์

ดูแลผู้ดูแลสักนิด

กาญจนา ตั้งชลทิพย์,อารี จำปากลาย

ความหน้า และความหลัง

ปราโมทย์ ประสาทกุล

Prachakorn Forum EP.7 | สูงวัยในเมืองหลวง

สุรีย์พร พันพึ่ง,ตะวันชัย​ จิ​ร​ประมุข​พิทักษ์

60…ใช่ว่าต้องหยุด (ทำงาน)

เฉลิมพล แจ่มจันทร์

Kidfluencer | EP. 1

รีนา ต๊ะดี

Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th