The Prachakorn

Gen Z จะก้าวเข้ามาเขย่าโลกแห่งการทำงานอย่างไร ในยุคที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง


จรัมพร โห้ลำยอง

21 กรกฎาคม 2564
628



เจเนอเรชั่น Z หรือ Gen Z (กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2539 -25531)  กำลังหลั่งไหลเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน องค์กรของคุณจะมีคนทำงานกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับการลดลงของกลุ่มประชากรรุ่นพี่ อย่าง Gen Y, Gen X, และ Baby Boomers ที่จะเคลื่อนตัวออกไปตามกาลเวลา 

ไม่ใช่แค่อายุเท่านั้นที่ทำให้ Gen Z ได้เข้ามาเป็นพนักงานใหม่ในองค์กร เพราะเขามาพร้อมกับศักยภาพที่นายจ้างต้องการ ด้วยความเป็นคนชนเผ่าดิจิทัลอย่างแท้จริง เพราะคน Gen Z เกิดมาในยุคที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตอยู่รอบตัว รู้จักทุกช่องทางสื่อสาร ฉลาดพอที่จะระมัดระวัง และปรับตัวได้กับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น และถึงแม้ Gen Z จะเป็นน้องใหม่ในที่ทำงาน แต่เขาไม่ใช่สตรอเบอรี่ที่จะบอบช้ำได้ง่ายๆ   อย่าลืมว่าเขานั่งมองน้ำท่วมในย่านศูนย์กลางทางการเงินในช่วงวัยรุ่น โตมาพร้อมกับวิกฤตการเมืองแบบมาราธอน และได้มองเห็นภาพความล่มสลายของระบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง คนกลุ่มนี้จึงจะเลือกทางเดินชีวิตแบบระมัดระวัง ไม่ตกใจง่าย ไม่เพ้อฝัน วางเป้าหมายในการทำงานบนฐานของความเป็นจริง เขามีแรงจูงใจในตนเอง และ มีทักษะในการจัดการปัญหาได้เป็นอย่างดี

ภาพโดย อวิรุทธ์ สิริสินวิบูลย์ - ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่จากบุคคลในภาพ

ความต้องการและความคาดหวังของคน Gen Z กำลังจะเปลี่ยนภาพโลกแห่งการทำงาน ไปสู่มิติใหม่ ด้วยค่านิยม ทัศนคติ และประสบการณ์แวดล้อมที่แตกต่างจากคนทำงานรุ่นพี่ ส่งผลให้ความคาดหวังและเป้าหมายในการทำงานของคน Gen Z แตกต่างไป ผลการสำรวจภายใต้โครงการองค์กร 4G มีสุข2 ชี้ให้เห็นข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคนทำงาน Gen-Z ที่นายจ้างควรจะรู้ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับคลื่นคนทำงานรุ่นใหม่ในองค์กร 

มากกว่าครึ่งของ gen Z จะลาออกก่อนเกษียณ

วันเวลาได้พาเรามาถึงจุดที่การจ้างงานระยะยาว (lifetime employment หรือ long-term employment) ไม่ใช่เป้าหมายที่คนรุ่นใหม่คาดหวังจากองค์กร โดยร้อยละ 65.3 ของกลุ่มตัวอย่าง Gen Z วาดภาพตนเองเกษียณจากธุรกิจส่วนตัว และ อีกร้อยละ 6.7 เกษียณจากการเป็นฟรีแลนซ์ มีเพียงร้อยละ 14.9 คาดหวังที่จะเกษียณจากองค์กรภาครัฐ และ 5.7 จากองค์กรเอกชน 

ภาพที่ 1 งานสุดท้ายที่ทำก่อนเกษียณ ในภาพวาดการทำงานของ Gen Z (N=475)

gen Z มุ่งหวังที่จะเป็นผู้ประกอบการ

ลักษณะเด่นของ Gen Z คือ มีความเป็นอิสระ เชี่ยวชาญเทคโนโลยี มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง เรียนรู้เร็ว ทันสมัย และคิดนอกกรอบ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ เป็นที่ต้องการของบริษัทน้อยใหญ่ ถ้าGen Z พกทักษะเหล่านี้ไปใช้ในการทำงาน จะยิ่งผลักดันให้องค์กรก้าวหน้าได้อย่างแน่นอน แต่ทักษะเหล่านี้ ก็เหมาะมาก ที่จะนำมาใช้สร้างกิจการของตนเอง ด้วยความที่คนกลุ่มนี้มีทักษะการประกอบการสูง (high entrepreneurship skill) การเป็นผู้ประกอบการเสียเองก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ 

ร้อยละ 16.4 ของปัญญาชน Gen Z มุ่งมั่นว่างานแรกของเขา คือ ทำธุรกิจส่วนตัว อีกร้อยละ 4.6 จะเริ่มงานแรกในชีวิตด้วยการเป็นฟรีแลนซ์ และร้อยละ 2.9 จะนำทักษะที่มีคุณค่าของตนเองนี้ ไปสร้างความก้าวหน้าให้กับที่บ้าน ด้วยการทำงานในธุรกิจครอบครัว เรียกได้ว่า 1 ใน 4 ของ Gen Z จะเริ่มชีวิตการทำงานด้วยลำแข้งของตนเอง 
    
แม้ว่ากว่าครึ่งหนึ่งของ Gen Z (ร้อยละ 63.9) จะเริ่มงานแรกในภาคการทำงานปกติ คือ ทำงานให้กับภาครัฐและองค์กรเอกชน แต่เมื่อเวลาผ่านไปจุดหนึ่ง คนกลุ่มนี้จะลาออกเป็นส่วนใหญ่ และผันตัวเป็นผู้ประกอบการ หรือเลือกเป็นฟรีแลนซ์ เพื่อควบคุมเป้าหมายและกำหนดความก้าวหน้าในงานด้วยตนเอง ผลการสำรวจชี้ว่า ร้อยละ 64 ของ Gen Z ที่เลือกรับราชการเป็นงานแรกในชีวิต และร้อยละ 77 ที่เริ่มงานกับองค์กรเอกชน ไม่ได้คาดหวังที่จะอยู่กับองค์กรเหล่านี้ไปจนเกษียณ แต่มุ่งหวังที่จะเกษียณจากกิจการของตนเองหรือทำงานอิสระจากการเป็นฟรีแลนซ์

ภาพที่ 2 งานแรกที่ทำเมื่อจบการศึกษา ในภาพวาดการทำงานของ Gen Z (N=475)


 

การย้ายที่ทำงานแห่งใหม่ ไม่ใช่เรื่องยาก

การย้ายงานแต่ละครั้ง มีความสำคัญกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิต เพราะการย้ายงาน ทำให้คนทำงานต้องเปลี่ยนเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน สภาพแวดล้อม และรายได้ แต่สำหรับคน Gen Z ที่โตมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงนั้น การย้ายงานเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในชีวิตการทำงานของเขา โดยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 83)  คาดหวังว่าตนเองจะเปลี่ยนนายจ้างหรือย้ายบริษัทอย่างน้อย 1 ครั้ง มีเพียงร้อยละ 17 เท่านั้นที่ไม่ได้คาดหวังจะเปลี่ยนนายจ้างหรือย้ายบริษัทเลย ในตลอดช่วงชีวิตการทำงานของเขา 

ภาพที่ 3 จำนวนครั้งที่คาดหวังจะเปลี่ยนนายจ้างหรือย้ายบริษัท ในตลอดช่วงชีวิตการทำงาน (N=347)

เราทุกคนกำลังเดินอยู่บนช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่รู้อนาคต แต่ที่แน่ใจได้ก็คือ โลกของวันพรุ่งนี้ไม่มีทางจะเหมือนกับเมื่อวาน ภายใต้สภาวะของความไม่แน่นอน และวิกฤตภัยคุกคามที่คาดเดาไม่ได้ องค์กรที่จะอยู่รอดได้ ไม่ใช่องค์กรที่มีแผนกลยุทธ์ล้ำเลิศที่วางไว้ล่วงหน้า แต่เป็นองค์กรที่มีความสามารถในการรับรู้อย่างต่อเนื่อง และตอบสนองต่อข้อมูลใหม่ได้อย่างทันท่วงที ความพร้อมของคนทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนดความอยู่ “รอด” หรือ “ร่วง” ให้กับองค์กร การมีคนทำงานที่ใช่จะช่วยให้องค์กรผ่านวิกฤตต่างๆ ไปได้ 

หาก Gen Z มีทักษะที่องค์กรของคุณต้องการ การบริหารจัดการรูปแบบการทำงานและสวัสดิการเพื่อดึงดูดคนทำงาน Gen Z เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง 

  1. วางโครงสร้างการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ ที่เปิดไว้รองรับ alternative workforce หรือกำลังพลทางเลือก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ มีพนักงานที่ไม่ประจำเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร โดยสร้างระบบให้เกิดความยืดหยุ่นในการจ้างงาน ทั้งในรูปแบบ พนักงานอิสระแบบผูกพัน (gig workers) ฟรีแลนซ์ (freelance) พนักงานไม่ประจำ (contract worker) หรือ พนักงานนอกเวลา (part-time workers) 
  2. ปรับรูปแบบสวัสดิการให้สอดคล้องกับความต้องการของคนทำงาน สำหรับคน Gen Z สวัสดิการที่ให้ประโยชน์ในวันนี้คงจะดีกว่าอนาคตอันไกล เช่น สวัสดิการส่งเสริมสุขภาพที่เปิดให้เขาใช้ประโยชน์ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นบริการฟิตเนส บัตรกำนัลอาหารสุขภาพ หรือส่วนลดหย่อนค่าใช้จ่ายในการบำรุงสุขภาพ เป็นต้น 
  3. ขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างเสริมความสุขในการทำงาน เพื่อสร้างความผูกพันให้ Gen Z คงอยู่กับองค์กร ไม่ลาออก เพราะการย้ายงานจากองค์กรที่มีความสุข เป็นเรื่องที่ยากสำหรับคนทำงานทุกคน

อ้างอิง

  1. Montana, P. J., & Petit, F. (2008). Motivating Generation X and Y on the job and preparing Z. Global Journal of Business Research, 2(2), 139-148.
  2. การสำรวจองค์กร 4G มีสุข: เข้าใจ เตรียมพร้อม และทลายช่องว่าง สำรวจทัศนคติในการทำงานในกลุ่มนักศึกษา ปี 3 และ ปี 4 จำนวน 477 คน ใน 8 สถาบันอุดมศึกษาในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ในปี 2564 ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)


CONTRIBUTOR

Related Posts
ยูนิฟอร์มสร้างสุข

สุภาณี ปลื้มเจริญ

การเลียนแบบ

วรชัย ทองไทย

สมองไทยย้ายถิ่น

สักกรินทร์ นิยมศิลป์

Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th