The Prachakorn

มาตรการป้องกัน COVID-19 กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม


วรเทพ พูลสวัสดิ์

14 มิถุนายน 2564
998



จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ช่วงประมาณปลายปี 2562 และได้แพร่ระบาดกระจายไปทั่วโลก ทำให้ทุกรัฐบาล รวมถึงรัฐบาลไทย ต่างออกมาตรการหลายอย่างเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 มีการยืนยันอย่างเป็นทางการถึงการตรวจพบผู้ป่วย COVID-19 รายแรกที่เดินทางมาจากประเทศจีนภายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก1 กระทั่งปลายเดือนมกราคม 2563 กระทรวงสาธารณสุขของไทยได้ยืนยันอย่างเป็นทางการถึงการตรวจพบผู้ป่วยชาวไทยภายในประเทศที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศเลย2 จำนวนผู้ป่วยในประเทศไทยเริ่มมากขึ้นหลายร้อยคนในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2563 และแพร่ระบาดต่อเนื่องภายในประเทศเป็นระลอกจนถึงปัจจุบัน (มิถุนายน 2564) ที่สถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายลง อย่างไรก็ตาม มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ของรัฐบาลไทยที่สื่อสารออกมานับตั้งแต่มีการระบาด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย (Face mask) การเว้นระยะห่างทางกายเพื่อลดการสัมผัส (Physical distancing) และการอาศัยอยู่บ้าน (Stay home) ล้วนเป็นมาตรการที่ก่อให้เกิดผลดีในแง่สุขภาพของประชาชน แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งได้สร้างผลเสียหรือผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อมและความยากลำบากในการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของผู้คนในสังคม

ภายหลังการประกาศใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมได้ปรับเปลี่ยนไปจากรูปแบบเดิม โดยเฉพาะการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีความลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ เมื่อกล่าวถึงพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Environmentally Responsible Behavior: ERB) ตามที่นักวิชาการได้ให้คำนิยามไว้ว่า

“การประพฤติปฏิบัติของปัจเจกบุคคลหรือกลุ่มคนที่มุ่งเน้นการสนับสนุนและแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือการแสดงออกทางด้านพฤติกรรมหรือการกระทำที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งมุ่งดำเนินการป้องกันเพื่อลดผลกระทบทางลบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบนโลก”3

การแสดงออกถึงพฤติกรรมดังกล่าวนี้ ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัย และ/หรือ ตัวแปรที่ส่งผลต่อการแสดงถึงพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ความรู้และกฎระเบียบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ทัศนคติที่มีต่อสิ่งแวดล้อม การกระทำจากบุคคลอื่นที่ปฏิบัติในเชิงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจนมีอิทธิพลให้อยากแสดงพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม4

และจากคำนิยาม ปัจจัย/ตัวแปรต่าง ๆ ที่ระบุเมื่อนำมาเทียบกับสภาพแวดล้อมจากมาตรการการป้องกันของภาครัฐที่สื่อสารออกมาจะพบว่า เป็นการสร้างปัญหาทางสิ่งแวดล้อมและเกิดความลำบากของผู้คนในการแสดงพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า ซึ่งผู้เขียนขอยกตัวอย่าง 3 พฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันที่โยงกับเรื่องสิ่งแวดล้อม และเกิดความยากลำบากในการประพฤติปฏิบัติเพื่อรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม อันเป็นผลจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่สื่อสารออกมา ดังนี้

การใช้แก้ว/กระบอกน้ำทัมเบลอร์ส่วนตัว

ในยุคที่สังคมทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยให้ความสำคัญกับการลดการใช้พลาสติก ประกอบกับความนิยมของการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มชงเพิ่มมากขึ้น จึงก่อให้เกิดความพยายามของผู้คนในการแสดงพฤติกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการหันมาใช้แก้ว/กระบอกน้ำทัมเบลอร์ส่วนตัวเพื่อใช้ดื่มน้ำที่สามารถเก็บกักความเย็นหรือความร้อนจากเครื่องดื่มตามอุณหภูมิที่เหมาะสม ได้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ประกอบกับรูปทรงและขนาดที่สวยหลากหลาย รูปแบบที่ออกแบบมาช่วยดึงดูดให้ผู้คนอยากมีไว้ใช้ส่วนตัว สามารถใช้งานได้บ่อย อีกทั้งทำความสะอาดได้ง่าย สะดวกกับการนำมาใช้ซ้ำได้ตลอด และช่วยลดปริมาณขยะจากแก้วพลาสติกได้ด้วย นอกจากนี้ หลายร้านค้าเครื่องดื่มได้ช่วยสนับสนุนผู้บริโภคด้วยการลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับลูกค้าที่พกแก้ว/กระบอกน้ำทัมเบลอร์ส่วนตัวมาใช้บริการ ซึ่งพฤติกรรมที่แสดงออกทั้งจากผู้ขายเครื่องดื่มและผู้บริโภคล้วนต่างส่งเสริมสนับสนุนการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของของเชื้อ COVID-19 รัฐบาลทั่วโลกและรัฐบาลไทยได้ออกมาตรการป้องกันเพื่อลดการแพร่ระบาด ด้วยการป้องกันผู้คนให้ลดการสัมผัสระหว่างกันให้มากที่สุด ทั้งการสัมผัสทางกายและการสัมผัสจากสิ่งของ เพราะเชื้อไวรัสดังกล่าวสามารถเกาะติดบนพื้นผิวสิ่งของได้นาน ดังนั้น มาตรการป้องกันของภาครัฐที่ออกมา ทำให้ร้านค้าเครื่องดื่มต้องออกมาตรการที่สอดรับกับมาตรการของภาครัฐด้วยการงดรับแก้ว/กระบอกน้ำทัมเบลอร์ส่วนตัวจากผู้บริโภคเพื่อลดการติดเชื้อจากการสัมผัส แต่มาตรการดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่ทำให้ปริมาณแก้วพลาสติกเพิ่มขึ้น สร้างความลำบากใจให้กับผู้บริโภคจำนวนหนึ่งที่พยายามใช้แก้ว/กระบอกน้ำทัมเบลอร์ส่วนตัวเพื่อลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม ต้องหันกลับมาใช้แก้วพลาสติกตามเดิม สร้างภาระกับการคัดแยกขยะต่อผู้ขายเครื่องดื่ม ผู้บริโภค และผู้ที่ทำหน้าที่คัดแยกขยะ ที่สำคัญคือ จากงานวิจัยใน International Journal of Environmental Research and Public Health พบว่า เชื้อ COVID-19 สามารถเกาะติดอยู่บนพื้นผิวพลาสติกได้เป็นระยะเวลา 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน5 เป็นการเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นหากมีการสัมผัสพื้นผิวของวัตถุพลาสติกที่มีเชื้อไวรัสเกาะติดและถูกทิ้งออกไป จึงเป็นผลเสียที่สร้างความลำบากของพฤติกรรมความรับผิดชอบทางสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นทางร้านค้าที่นำแก้วพลาสติกมาจนถึงปลายทางของการกำจัดแก้วพลาสติก

ภาพจาก Cholsiripong, T. (6 มิถุนายน 2564). Starbucks ออกกฎใหม่ งดรับแก้วส่วนตัวของลูกค้าชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19. 2563 สืบค้นจาก https://brandinside.asia/starbucks-ban-personal-cup-covid-19/

ภาพจาก Café Amazon Official Facebook Fan Page

การสั่งอาหารผ่านระบบออนไลน์ (Food delivery)

มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ของภาครัฐที่ให้ร้านค้าต่าง ๆ ปิดร้าน ห้ามนั่งทานในร้านอาหาร ผู้บริโภคงดหรือลดการเดินทางเพื่อเว้นระยะห่างทางกายเพื่อลดการสัมผัส (Physical distancing) และการอาศัยอยู่บ้าน (Stay home) ทำให้ผู้คนหันมาสั่งอาหารผ่านระบบออนไลน์ (Food delivery) เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว และการสั่งอาหารผ่านระบบออนไลน์แต่ละครั้ง มักจะมีขยะจำนวน 7 ชิ้น ที่ตามมา ได้แก่ กล่องอาหาร ถุงใส่น้ำจิ้ม ช้อนพลาสติก ส้อมพลาสติก ถุงใส่ช้อนส้อม ถุงน้ำซุป และถุงพลาสติกหูหิ้วใส่อาหาร ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นขยะจากภาคธุรกิจอาหารทั้งหมด มีการคาดการณ์ว่าขยะพลาสติกจากการสั่งผ่านระบบออนไลน์จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นหลายร้อยล้านชิ้น6  ซึ่งทำให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม เพราะปราศจากการกำจัดอย่างถูกวิธี แน่นอนว่าประชาชนส่วนใหญ่รู้ว่าขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นจะสร้างผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม แต่มาตรการดังกล่าวของภาครัฐทำให้ผู้คนจำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรม และสร้างความลำบากในการแสดงพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นการเพิ่มภาระยุ่งยากในการคัดแยกขยะและการกำจัดขยะตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง สร้างความลำบากใจและรู้สึกผิดต่อผู้บริโภคที่ใส่ใจการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ขณะที่ภาคธุรกิจบริการร้านอาหารออนไลน์มุ่งส่งเสริมการขายที่ให้ส่วนลดค่าอาหารและอุดหนุนค่าจัดส่งเช่นกันเพื่อเพิ่มยอดขายที่ดึงดูดผู้บริโภค จนมองข้ามมิติทางด้านสิ่งแวดล้อม และท้ายสุดจะนำไปสู่พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ยั่งยืนจากการสั่งอาหารออนไลน์ รวมถึงทัศนคติต่อมาตรการลดปัญหาขยะพลาสติกจะน้อยลง เพราะผู้คนเริ่มรู้สึกว่าไม่มีความสำคัญ การมีพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและลำบาก

ภาพจาก กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม. (6 มิถุนายน 2564). ขยะจากฟู้ดเดลิเวอรี่ ปัญหาที่บรรเทาลงได้ด้วยการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง. 2564. สืบค้นจาก https://www.deqp.go.th/new/ขยะจากฟู้ดเดลิเวอรี่

การกำจัดหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว

มาตรการของภาครัฐที่กำหนดให้ผู้คนสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 แต่เมื่อใช้หน้ากากไประยะหนึ่ง การทิ้งเพื่อกำจัดหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีควรม้วนรัดด้วยอิลาสติกคล้องหู แล้วเก็บใส่ถุงพลาสติกใสมัดให้แน่น ก่อนนำใส่ถังขยะสีแดงที่เป็นถังสำหรับใส่ขยะติดเชื้อ (Infectious waste) ข้อดีคือเป็นการเก็บกักและทำให้ปลายทางของผู้ที่ทำหน้าที่จัดเก็บและคัดแยกขยะสามารถมองเห็นว่าสิ่งที่อยู่ในถุงคืออะไร ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันของประเทศไทย ปริมาณขยะหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าภาครัฐจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังแสดงพฤติกรรมในการกำจัดหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างไม่ถูกวิธี เพราะอาจมองว่าข้อมูลที่ภาครัฐนำเสนอออกมาดูแล้วเป็นความยากลำบากยุ่งยากในการทำความเข้าใจและการประพฤติปฏิบัติรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบกับผู้คนยังไม่ได้ให้ความสำคัญที่จะกำจัดอย่างถูกต้อง ยังมองข้ามมิติสุขภาพและสิ่งแวดล้อมไป ทั้งที่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อผู้สัมผัสขยะที่อยู่ปลายทางที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และหน้ากากอนามัยมีส่วนประกอบที่ผลิตจากวัสดุย่อยสลายยาก เช่น พอลิโพรไพลีน (Polypropylene: PP) ทำให้มีปริมาณขยะมูลฝอยเป็นจำนวนมาก เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางน้ำและอากาศ7

ภาพจาก กรรณิการ์ ธรรมพานิชวงค์ และวิชสิณี วิบุลผลประเสริฐ. (6 มิถุนายน 2564). ฮาวทูทิ้ง หน้ากากอนามัยให้ปลอดภัยกับสังคมและสิ่งแวดล้อม. 2563. สืบค้นจาก https://www.greennetworkthailand.com/ฮาวทูทิ้ง-หน้ากากอนามัย/

มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ของภาครัฐที่สื่อสารและออกมามีผลบังคับใช้แล้วไม่ควรทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ควรทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึก ทัศนคติ และมองว่าการแสดงพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและลำบาก แต่เป็นการทำให้ประชาชนอยากแสดงพฤติกรรมที่ช่วยสิ่งแวดล้อมออกมาอย่างแท้จริงและไม่รู้สึกเป็นภาระ ด้วยการให้ความรู้อย่างถูกต้อง เข้าใจง่าย และไม่ยุ่งยากซับซ้อนต่อการเรียนรู้และปฏิบัติ ภาครัฐควรสร้างสภาพแวดล้อมให้ประชาชนไม่รู้สึกว่าเมื่อปฏิบัติแล้วไม่ได้เป็นการรู้สึกเหมือนดิ้นรนและยุ่งยากในชีวิตประจำวันเพื่อแสดงพฤติกรรมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม


อ้างอิง

  1. Cheung, E. (2020). Wuhan pneumonia: Thailand confirms first case of virus outside China. Retrieved June 6, 2021. From https://web.archive.org/web/20200113130102/https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3045902/wuhan-pneumonia-thailand-confirms-first-case
  2. ไทยรัฐออนไลน์. (6 มิถุนายน 2564). สธ.แถลง พบคนขับแท็กซี่ ติดไวรัสโคโรน่า เป็นคนไทยรายแรก ไม่มีประวัติไปจีน. 2563. สืบค้นจาก https://web.archive.org/web/20200131122334if_/https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1761053
  3. Lee, T. H., Jan, F. H., and Yang, C. C. (2013). Environmentally responsible behavior of nature-based tourists: A review. International Journal of Development and Sustainability. 2(1). PP. 100-115.
  4. Akintunde, E. (2017). Theories and Concepts for Human Behavior in Environmental Preservation. Journal of Environmental Science and Public Health. 1(2). PP. 120-133.
  5. Fiorillo, L., Cervino, G., Matarese, M., D’Amico, C., Surace, G., Paduano, V., Fiorillo, M. T., Moschella, A., Bruna, A. L., Romano, G. L., Laudicella, R., Baldari, S., and Cicciù, M. (2020). COVID-19 Surface Persistence: A Recent Data Summary and Its Importance for Medical and Dental Settings. International Journal of Environmental Research and Public Health. 17(3132). PP. 1-10.
  6. กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม. (6 มิถุนายน 2564). ขยะจากฟู้ดเดลิเวอรี่ ปัญหาที่บรรเทาลงได้ด้วยการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง. 2564. สืบค้นจาก https://www.deqp.go.th/new/ขยะจากฟู้ดเดลิเวอรี่/
  7. กรรณิการ์ ธรรมพานิชวงค์ และวิชสิณี วิบุลผลประเสริฐ. (6 มิถุนายน 2564). ฮาวทูทิ้ง หน้ากากอนามัยให้ปลอดภัยกับสังคมและสิ่งแวดล้อม. 2563. สืบค้นจาก https://www.greennetworkthailand.com/ฮาวทูทิ้ง-หน้ากากอนามัย/

 



CONTRIBUTOR

Related Posts
ด้วยรักและโรคระบาด

ภัทราภรณ์ จึงเลิศศิริ

Work From Home (WFH)

ดนุสรณ์ โพธารินทร์

เงิน….. งาน…… บันดาลสุขอย่างไร? ในวันที่ต้อง Work From Home

จรัมพร โห้ลำยอง,ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต

COVID-19 โรคเปลี่ยนโลก

ชื่นฤทัย กาญจนะจิตรา

โกหกคำโต (big lie)

วรชัย ทองไทย

หวังว่าโควิด-19 จะผ่านไป

ปราโมทย์ ประสาทกุล

โควิด-19 กับ มูลค่าชีวิตคน

เฉลิมพล แจ่มจันทร์

เลี้ยงลูกในยุคโรคระบาด

มนสิการ กาญจนะจิตรา

แมลงสาบ

วรชัย ทองไทย

ขยะมือสองกับนักรณรงค์ Freegans

นุชราภรณ์ เลี้ยงรื่นรมย์

อาชีพกับเรื่องอ้วนๆ

จงจิตต์ ฤทธิรงค์

การส่งเสริมกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ

กรกนก พงษ์ประดิษฐ์,ปิยวัฒน์ เกตุวงศา

Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th