The Prachakorn

ทำให้ทุกโรงเรียนเป็น “โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ”: พลิกฟื้นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพเพื่อรับมือในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง


อัญชุลี อ่อนศรี

15 มิถุนายน 2565
689



การเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่พลิกผันที่รวดเร็วและความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่าง ๆ ของโลกยุคใหม่หรือภาวะ VUCA World  ที่หลาย ๆ คนรู้จักและคุ้นหูเป็นอย่างดี (คำว่า VUCA ย่อมาจาก V-Volatility ความผันผวน U-Uncertainty ความไม่แน่นอน C-Complexity ความซับซ้อน A-Ambiguity ความคลุมเครือ เดิมเป็นคำที่ใช้เรียกสถานการณ์ในสงครามในวงการทหาร ต่อมาคำนี้ถูกนำมาใช้อธิบายสภาพการณ์ผันผวนในโลกธุรกิจและปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว1) ซึ่งแน่นอนว่าการแพร่ระบาดของโควิด 19 ตลอดช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นภาพสะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนโดยรวมในทุกด้าน โดยเฉพาะการคุกคามสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กและเยาวชนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

จากข้อมูลการรายงานผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของการระบาดโรคโควิด 19 ต่อเด็กและเยาวชนในประเทศไทยของยูนิเซฟ พ.ศ. 2565 ชี้ให้เห็นว่าผลกระทบที่รุนแรงของโควิด 19 จากการชัตดาวน์ทางการศึกษา ทำให้เด็กต้องประสบกับปัญหาการเข้าถึงการศึกษา สุขภาพ และอาหารที่มีผลต่อพัฒนาการ สุขภาพจิต พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ2 และที่สำคัญส่งผลต่อภาวะถดถอยทางความรู้ซึ่งอาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ ตลอดจนการเรียนรู้และหน้าที่การงานในอนาคตของเด็ก3 ซึ่งผลกระทบเหล่านี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าการมีสุขภาพดีสนับสนุนให้การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ และในทางกลับกันการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพก็จะสนับสนุนให้เกิดสุขภาพที่ดีเช่นเดียวกัน ความสำคัญของโรงเรียนจึงเป็นมากกว่าสถานที่ที่ให้ความรู้ เพราะโรงเรียนยังเปรียบเสมือนเป็นเกราะคุ้มกัน ช่วยสนับสนุนให้เด็กได้รับการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพได้อย่างมีคุณภาพอีกด้วย

ย้อนกลับไปประมาณเกือบสามทศวรรษ (พ.ศ. 2538 ) องค์การอนามัยโลกเริ่มต้นแนวคิด “โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ (Health Promoting School) คือ โรงเรียนที่มีความสามารถแข็งแกร่งมั่นคงเพื่อเป็นสถานที่ที่ทำให้เกิดสุขภาพอนามัยที่ดีเพื่อการอยู่อาศัย การเรียนรู้ และการทำงาน” โดยสร้างความเข้มแข็งการส่งเสริมสุขภาพและกระบวนการจัดการศึกษาทุกระดับ เพื่อพัฒนาสุขภาพนักเรียน บุคลากรในโรงเรียน ครอบครัวและชุมชนผ่านโรงเรียนที่เป็นตัวกลางสำคัญขับเคลื่อนใน 6 ประเด็นหลัก คือ 1) นโยบายสุขภาพในโรงเรียน 2) สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ 3) สิ่งแวดล้อมทางสังคม 4) ทักษะส่วนบุคคลด้านสุขภาพ 5) ความเชื่อมโยงกับครอบครัวและชุมชน และ 6) บริการสุขภาพของโรงเรียน4 ซึ่งประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้นำแนวคิดโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพไปปรับใช้ตามบริบทที่แตกต่างกันไป รวมถึงประเทศไทยซึ่งได้นำมากำหนดเป็นเกณฑ์มาตรฐานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพสำหรับประเมินทั้งด้านกระบวนการและผลลัพธ์ทางสุขภาพนักเรียนจนถึงปัจจุบัน5

และเมื่อปีที่ผ่านมา องค์การยูเนสโกและองค์การอนามัยโลกได้เปิดตัวแนวคิด “ทำให้โรงเรียนทุกโรงเรียนเป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ” ด้วย มาตรฐานระดับโลกสำหรับโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ (Global Standards for Health-promoting School) ที่พัฒนาต่อยอดจากแนวคิดเดิมเพื่อลดช่องว่างการดำเนินงาน เพิ่มความยืดหยุ่นมากขึ้น เน้นการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบให้มีความยั่งยืนและปรับเข้ากับบริบท และมุ่งสร้างความร่วมมือร่วมกันระหว่างหน่วยงานด้านการศึกษาและสุขภาพในด้านโยบายและทรัพยากรระดับประเทศ ท้องถิ่น และโรงเรียน รวมถึงออกแบบให้สามารถใช้ได้กับแนวคิดการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบใด ๆ ที่มีเป้าหมายด้านสุขภาพภายใต้ขอบเขตทางการศึกษา โดยไม่คำนึงว่าจะใช้ชื่อโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพหรือไม่6 และที่สำคัญคือการคงไว้ซึ่งเป้าหมายการพัฒนาสุขภาพที่ครอบคลุมสุขภาพอนามัยในทุกแง่มุมของชีวิตในโรงเรียนและชุมชนซึ่งสัมพันธ์กับการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และการเรียนรู้ของนักเรียน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สถานการณ์โควิด 19 จะคลี่คลายลง โรงเรียนต่างกลับมาเปิดการเรียนการสอนแบบออนไซต์อย่างเต็มรูปแบบ แต่ด้วยสภาวะความไม่แน่นอนไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากโควิด 19 เองหรือภัยคุกคามสุขภาพใหม่ ๆ ในโลกยุคใหม่นี้ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้น การสนับสนุนและผลักดันให้ทุกโรงเรียนเป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพในช่วงภาวะวิกฤตินี้ จึงเป็นโอกาสสำคัญในการเตรียมความพร้อมและสร้างเกราะคุ้มกันเพื่อรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุผลที่เน้นย้ำถึงประเด็นต่าง ๆ ได้แก่

  • ความเชื่อมโยงระหว่างการศึกษากับสุขภาพ
  • ความสำคัญของมิติสุขภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม
  • ทุกองค์ประกอบของโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้และสุขภาพของนักเรียน
  • ประสิทธิผลของการพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ กลยุทธ์ของโรงเรียน และการมีส่วนร่วมของชุมชน
  • อยู่บนหลักการของความเสมอภาค

จะเห็นได้ว่า บทบาทของโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพมีความสำคัญและเด่นชัดมากขึ้น ด้วยจุดแข็งของกลไกและกระบวนการการพัฒนาแบบองค์รวม ทำให้สร้างความมั่นใจได้ว่าโรงเรียนจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยต่อการเรียนรู้และสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียนทุกคน และไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ นักเรียนจะมีทักษะชีวิต ทักษะสุขภาพ สามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง สุขภาพและการศึกษาจึงเป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้ เช่นเดียวกับโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพที่ต้องสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานสาธารณสุข การศึกษา และภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง เช่นนั้นแล้ว การทำให้โรงเรียนทุกโรงเรียนเป็นโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพนั้นก็คงไม่ไกลเกินความเป็นจริง


อ้างอิง

  1. วรากรณ์ สามโกเศศ. (2565). กรอบคิดจาก VUCA สู่ BANI. สืบค้นจาก https://www.bangkokbiznews.com /columnist/1004689
  2. องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย. (2565). รายงานรวบรวมผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของการระบาดโรคโควิด-19 ต่อเด็กและเยาวชนในประเทศไทย. สืบค้นจาก https://www.unicef.org/thailand/ media/8786/file/COVID-19%20Impact%20on%20Children.pdf
  3. องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย. (2565). รายงานใหม่ชี้เด็กในเกือบทุกประเทศเผชิญการเรียนรู้ถดถอยเนื่องจากโควิด-19 ในประเทศไทย ยูนิเซฟจับมือกระทรวงศึกษาธิการและกสศ. เพื่อช่วยเด็ก ๆ ฟื้นฟูความรู้ที่ถดถอย. สืบค้นจาก https://www.unicef.org/thailand/th/press-releases/รายงานใหม่ชี้เด็กในเกือบทุกประเทศเผชิญการเรียนรู้ถดถอยเนื่องจากโควิด-19
  4. World Health Organization. (1998). WHO’s global school health initiative: Health promoting schools. Geneva: World Health Organization. Retrieved from https://www.who.int/school_youth_health/media/en/92.pdf
  5. สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2560). คู่มือการดำเนินงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2558) (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
  6. World Health Organization & the United Nations, Educational Scientific and Cultural Organization. (2021). Making every school a health-promoting school: global standards and indicators for health-promoting schools and systems. Retrieved from https://apps.who.int/iris/rest/bitstreams/1352165/retrieve

 



CONTRIBUTOR

Related Posts
รางวัลล้อเลียน

วรชัย ทองไทย

70 ปี...NHS

ณปภัช สัจนวกุล

คำขวัญวันเด็ก

สุภาณี ปลื้มเจริญ

สูงอายุ - ย้ายถิ่น - พำนักยาว

เฉลิมพล แจ่มจันทร์

เด็กน้อยเร่งเรียนเขียนอ่าน

มนสิการ กาญจนะจิตรา

ลิ้น

วรชัย ทองไทย

สูงวัยแต่ไม่แก่

ปราโมทย์ ประสาทกุล

พลเมืองไอซ์แลนด์

อมรา สุนทรธาดา

เงิน….. งาน…… บันดาลสุขอย่างไร? ในวันที่ต้อง Work From Home

จรัมพร โห้ลำยอง,ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต

Copyright © 2020 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 02-441-0201-4 โทรสาร 02-441-9333
Webmaster: piyawat.saw@mahidol.ac.th